Home Film News “กรรมการคือกรรมการ ไม่ใช่อัลกอริทึม” สรุปดราม่า #TikTokShortFilm ที่เมืองคานส์

“กรรมการคือกรรมการ ไม่ใช่อัลกอริทึม” สรุปดราม่า #TikTokShortFilm ที่เมืองคานส์

“กรรมการคือกรรมการ ไม่ใช่อัลกอริทึม” สรุปดราม่า #TikTokShortFilm ที่เมืองคานส์

เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม เพียงหนึ่งวันก่อนกำหนดมอบรางวัลให้ผู้ชนะการประกวดหนังสั้น #TikTokShortFilm ที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ – The Hollywood Reporter ได้รับข้อความแถลงจุดยืนจากผู้กำกับออเตอร์ชาวกัมพูชา ฤทธี ปาห์น (Rithy Panh) ซึ่งประกาศว่าเขาได้ถอนตัวจากตำแหน่งประธานกรรมการตัดสินรางวัลดังกล่าวแล้ว และ Variety รายงานเพิ่มเติมภายหลังว่ากรรมการอีกสองคน (ไม่ระบุชื่อ) ได้ตัดสินใจขอถอนตัวเช่นกัน

ข้อความของปาห์นที่เผยแพร่กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “หลังจากความไม่ลงรอยอันยืดเยื้อเรื่องความเป็นอิสระและอำนาจอธิปไตย (ปานห์ใช้คำว่า sovereignty) ของคณะกรรมการผู้ตัดสินรางวัล TikTok Short Film Festival ผมจึงได้ตัดสินใจก้าวลงจากตำแหน่งประธานกรรมการตัดสินรางวัลชุดนี้” ซึ่งสะท้อนเป็นนัยว่าอาจเกิดความพยายามแทรกแซงหรือเปลี่ยนแปลงผลการตัดสิน

#TikTokShortFilm ถือเป็นหนึ่งในอีเวนต์ที่ถูกจับตา หลังจากคานส์ประกาศความร่วมมือกับวิดีโอแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ในฐานะ official partner ของเทศกาล เพราะนอกจากความพยายามขยายฐานผู้ชมเทศกาลผ่านสายตา วิธีคิด และช่องทางเข้าถึงที่ “ลดวัย” ลงชนิดผิดหูผิดตา (คานส์เชิญ 20 ครีเอเตอร์จากทั่วโลกมาร่วมถ่ายทอด “ประสบคานส์” ผ่านสายตาแบบ TikTok รวมถึงเป็นพิธีกรช่วงไลฟ์ในอีเวนต์สำคัญๆ อย่างช่วงพรมแดง และผลิตรายการความยาว 60 นาทีเพื่อออนใน official account ของคานส์ตลอดช่วงเทศกาล) เพราะถึงจะไม่ใช่อีเวนต์หลักแต่คานส์ก็ให้ความสำคัญ เมื่อผู้อำนวยการเทศกาล เธียร์รี เฟรโมซ์ (Thierry Frémaux) ยืนยันว่าจะเป็นผู้มอบรางวัลด้วยตนเอง

ยิ่งการประกวดครั้งนี้ที่มีโจทย์ผูกพันกับคุณสมบัติเฉพาะของแอป (ทั้งความยาวและฟีเจอร์ลูกเล่น) จะถูกตัดสินผ่านสายตาคณะกรรมการที่เป็น “คนทำหนัง” ก็ยิ่งน่าจับตาว่า TikTok อาจประสบความสำเร็จในการยกระดับให้คอนเทนต์คลิปวิดีโอของตนเอง ซึ่งถึงจะเป็นที่นิยมแต่คนส่วนใหญ่ก็จัดประเภทเป็นความบันเทิงชั่วแล่นฉาบฉวย ว่ามีศักยภาพและศักดิ์ศรีเพียงพอที่จะเป็นอีกโฉมหน้าของ “ภาพยนตร์” ได้เช่นกัน – เมื่อหมดเขตรับสมัคร มีผู้ส่ง “หนังสั้น” เข้าร่วมจาก 44 ประเทศ และ TikTok เคลมภายหลังว่ามียอดผู้ชมผลงานทั้งหมดกว่า 4,400 ล้านวิว

ขอบคุณภาพจากก้อง ฤทธิ์ดี

ฤทธี ปานห์ ก็แสดงออกชัดว่าแชร์ความเชื่อเดียวกัน เขาตอบรับคำเชิญเป็นกรรมการ “โดยไม่ลังเล” เพราะเชื่อว่าความร่วมมือกับคานส์เป็นเครื่องยืนยันว่าภาพยนตร์ยังเป็นหัวใจสำคัญ รวมถึงความนับถือที่มีต่อ เอริค คารองโด (Éric Garandeau) ประธานบอร์ดภาพยนตร์แห่งชาติฝรั่งเศส (CNC) คนก่อนหน้า ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายกิจการสาธารณะของ TikTok ฝรั่งเศส ผู้มีบทบาทสำคัญในการจบดีลระหว่าง TikTok กับคานส์ – ปานห์เห็นว่านี่คือสะพานเชื่อมระหว่างภาพยนตร์กับวิดีโอแพลตฟอร์มที่กำลังเติบโต และเป็นโอกาสสำคัญที่โลกภาพยนตร์จะเข้าหาคนรุ่นใหม่ ผ่านเครื่องมือสร้างสรรค์และการแสดงออกในรูปแบบที่พวกเขาเลือกและกำลังชื่นชอบ

หนึ่งวันหลังแถลงจุดยืนครั้งแรก ปานห์ให้สัมภาษณ์กับ The Hollywood Reporter เพื่อลงรายละเอียดถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น โดยระบุชัดว่าเป็นเพราะทีมผู้บริหารของ TikTok เข้ามาวุ่นวายแทรกแซงกระบวนการตัดสิน ถึงขั้นโน้มน้าวให้เปลี่ยนรางวัลชนะเลิศเป็นหนังที่ทาง TikTok ชอบแทนหนังที่กรรมการเลือก “ถ้าพวกเขาแค่อยากขายของ ผมก็คงไม่ว่าอะไร แต่ถ้าพูดว่านี่คือการประกวดภาพยนตร์จริงๆ คุณต้องเคารพอิสระและอำนาจอธิปไตยของกรรมการ”

เขาเล่าเพิ่มว่าเพราะไม่อยากให้เป็นเรื่องเป็นราว และยังเชื่อในไอเดียของการประกวดหนังสั้นครั้งนี้ จึงพยายามประนีประนอมก่อนแล้วด้วยการเสนอให้มีหนังชนะเลิศสองเรื่อง คือหนังที่กรรมการเลือกและหนังที่ TikTok เลือก ทุกฝ่ายตกลงตามนี้หลังถกเถียงกันอยู่พักใหญ่ แต่กลายเป็นว่าทาง TikTok มาบอกทีหลังว่าจะตัดสิทธิ์หนังที่กรรมการเลือกเพราะเพิ่งพบว่าทำผิดกติกา ปานห์ตอบกลับไปว่าถ้าอย่างนั้นกรรมการต้องมาประชุมเลือกหนังชนะเลิศเรื่องใหม่แทนเรื่องที่ถูกตัดสิทธิ์ แต่ TikTok ไม่ยอม และยืนยันจะให้แค่หนังที่ตัวเองเลือกเพียงเรื่องเดียวชนะรางวัลใหญ่ – ตรงนี้เองที่ทำให้ปานห์ขอไม่ยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมนี้อีก

“ผมตัดสินใจลาออกก็เพื่อแสดงจุดยืนให้ชัดว่า อิสระของกรรมการตัดสินรางวัลด้านภาพยนตร์ต้องได้รับการเคารพ – ถ้าปีหน้ายังคิดเปิดสายประกวดลักษณะนี้อีก ผมก็หวังว่าพวกเขาจะทำได้ดีกว่านี้” ปานห์กล่าว “พวกเขาต้องตระหนักว่ากรรมการตัดสินผลงานศิลปะคือกรรมการ ไม่ใช่อัลกอริทึม”

ต่อมาเจ้าของรางวัล Un Certain Regard ประจำปี 2013 ได้แจ้งทางคานส์เกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น และบอกว่าฝ่ายเฟรโมซ์สนับสนุนการตัดสินใจของเขา ก่อนที่ทาง TikTok จะอ่อนท่าทีลง ติดต่อมายังปานห์ และให้สัญญาว่าจะเคารพวิจารณญาณของคณะกรรมการอย่างเต็มที่ เรื่องราวทั้งหมดจึงคลี่คลายลง เมื่อกรรมการทั้งห้าคนรวมถึง ฤทธี ปาห์น ได้ปรากฏตัวร่วมแสดงความยินดี ร่วมพูดคุยและให้สัมภาษณ์ในพิธีมอบรางวัล โดยไม่มีการกล่าวถึงดราม่าทั้งหมดที่เกิดขึ้น

ผลงานสองเรื่องที่คว้ารางวัลใหญ่ไปครอง ได้แก่ Is It Okay to Chop Down Trees? (มาบุตะ โมโตกิ / Mabuta Motoki) และ Love in Plane Sight (มาเตจ์ ริมานิค / Matej Rimanic) ในขณะที่รางวัลตัดต่อยอดเยี่ยมตกเป็นของ ทิม แฮมิลตัน (Tim Hamilton) และ คลอเดีย โคเชต์ (Claudia Cochet) ได้รางวัลบทยอดเยี่ยม

อย่างไรก็ดี เธียร์รี เฟรโมซ์ ที่เคยยืนยันว่าจะมาร่วมงาน กลับไม่ปรากฏตัวในพิธีมอบรางวัล #TikTokShortFilm

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here