ยืดการไต่สวนคดีบุกอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ หลังพบหลักฐาน ‘สำคัญ’ จากฟุตเทจสารคดี Unprecedented

ยังไม่แน่ชัดว่าสิ่งนี้จะมีอิทธิพลต่อการพิจารณาคดีในอนาคตหรือไม่ แต่ฟุตเทจของสารคดี Unprecedented สามตอนจบของผู้กำกับชาวอังกฤษ อเล็กซ์ โฮลเดอร์ (Alex Holder) ก็ได้เข้ามาเป็นตัวละครใหม่ในการไต่สวนสาธารณะของคดีผู้ประท้วงบุกอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ ในวันที่ 6 มกราคมปีที่แล้วเป็นที่เรียบร้อย เมื่อเบนนี ทอมป์สัน ส.ส. และหัวหน้าคณะกรรมาธิการเหตุการณ์ 6 มกราคม ประกาศเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่าพวกเขาจะยืดเวลาการไต่สวนสาธารณะออกไปถึงเดือนกรกฎาคมแทนที่จะจบลงภายในเดือนมิถุนายน เนื่องจากพวกเขาเพิ่งได้รับหลักฐานที่เป็นฟุตเทจ “สำคัญ” และต้องการเวลาพิจารณาหลักฐานเหล่านั้นอีกสองสัปดาห์ โดยโฮลเดอร์ได้เข้าไปให้ข้อมูลกับคณะกรรมาธิการตามหมายเรียกแล้วเมื่อพฤหัสบดีที่ผ่านมา

หลังจากคณะกรรมาธิการประกาศว่ามีหลักฐานใหม่ ช่อง Discovery+ ที่ซื้อ Unprecedented ไปฉายก็ปล่อยตัวอย่างออกมาในวันรุ่งขึ้น (ชมตัวอย่างได้ด้านล่าง) ผู้สร้างบันทึกฟุตเทจช่วง 6 สัปดาห์ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่ชิงชัยกันระหว่างทรัมป์และไบเดน รวมถึงฟุตเทจเหตุการณ์จลาจลที่กลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ประท้วงผลการเลือกตั้งที่ไบเดนชนะว่าเป็นกลโกงของพรรคเดโมแครต และเกิดเหตุรุนแรงจนมีผู้เสียชีวิต 4 ราย

โฮลเดอร์ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงพื้นที่ส่วนตัวของครอบครัวทรัมป์และทำเนียบขาวเพื่อสัมภาษณ์ทรัมป์ อิวานกา เอริค และโดนัลด์จูเนียร์ ลูกๆ ของเขา รวมถึงจาเรด คุชเนอร์ ลูกเขย ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดี และบุคคลสำคัญอื่นๆ ในทำเนียบขาว โดยท่าทีของอิวานกาในสารคดีเป็นที่น่าจับตาและอาจมีผลกับรูปคดี เนื่องจากช่วงหลังเธอพยายามถอยห่างจากพ่อและแสดงตัวว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถึงให้การในการไต่สวนสาธารณะรอบก่อนหน้าว่าเธอ “ยอมรับ” ว่าไม่มีการโกงการเลือกตั้งเกิดขึ้น แต่ในตัวอย่างสารคดีรวมถึงบทสัมภาษณ์ก่อนการเลือกตั้ง ดูเหมือนเธอจะสนับสนุนพ่อเต็มที่ หลายสำนักข่าวต่างยกถ้อยคำของเธอในบทสัมภาษณ์ก่อนเกิดเหตุการณ์จลาจลที่ว่า “พ่อต้องสู้เพื่อคนที่เลือกเขา” ขึ้นมาเทียบเคียง

นอกจากนี้ ยังมีสารคดีอีกสองเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกาครั้งนี้ และดูเหมือนคนทำจะมีฟุตเทจสุดเดือดอยู่ในมือ เรื่องแรกคือสารคดีตามติดกลุ่มขวาสุดโต่ง ‘พราวด์บอยส์’ ไม่กี่วันก่อนเหตุการณ์จลาจล โดยผู้กำกับ นิค เควสเทต (Nick Quested) ถูกคณะกรรมาธิการเรียกเข้าไปให้ข้อมูลและส่งมอบฟุตเทจเป็นหลักฐานแล้ว อีกเรื่องคือ Alex’s War สารคดีตามติด อเล็กซ์ โจนส์ พิธีกรรายการวิทยุและนักทฤษฎีสมคบคิดที่อยู่ที่ทำเนียบขาวในวันเกิดเหตุและได้เดินขบวนกับกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ แต่ผู้กำกับ อเล็กซ์ ลี มอยเออร์ (Alex Lee Moyer) ยังไม่ได้ถูกเรียกไปให้ข้อมูล

ยังมีอีกหลายครั้งที่สารคดีมีอิทธิพลมากจนนำมาซึ่งจุดเปลี่ยนในการไต่สวนคดีดังๆ ในอเมริกา อย่าง The Jinx: The Life and Deaths of Robert Durst (2015, แอนดรูว์ จาเร็คกี้ ผู้กำกับ Capturing the Freidmans) มินิซีรีส์ 6 ตอนจบที่สัมภาษณ์โรเบิร์ต เดิร์สต์ ทายาทตระกูลมหาเศรษฐีอสังหาฯ เจ้าของที่ดินจุดสำคัญในนิวยอร์ก ผู้เคยตกเป็นผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรม 3 คดี ฮือฮาหนักเพราะเดิร์สต์ถูกจับกุมก่อนตอนจบออนแอร์เพียงหนึ่งวัน และความลับดำมืดก็ถูกเปิดเผยในตอนจบด้วยถ้อยคำที่เดิร์สต์เผลอพึมพำกับตัวเองตอนไปเข้าห้องน้ำ …แต่ลืมถอดไมค์ออก

อีกเรื่องคือหนังสารคดี Tales of the Grim Sleeper (2014, นิค บรูมฟีลด์) ว่าด้วยคดีฆาตกรรมต่อเนื่องในลอส แองเจลิส ที่กินระยะเวลายาวนานกว่า 20 ปีระหว่างปี 1985 ถึง 2002 โดยเหยื่อส่วนมากประกอบอาชีพโสเภณีหรือไม่ก็เป็นคนติดยา ทำให้ตำรวจและสื่อไม่ได้ให้ความสนใจ และกระทั่งมีการจับตัวฆาตกรได้ในปี 2010 คดีก็ยังไม่คืบหน้า แต่เมื่อหนังฉายในช่อง HBO ได้ไม่ถึงปี การพิจารณาคดีก็เริ่มต้น หนังติดชอร์ตลิสต์สารคดียอดเยี่ยมของเวทีออสการ์ในปี 2014 และแม้จะไม่ได้ถึงกับเปลี่ยนรูปคดีหรือพลิกคำตัดสิน แต่ก็มีอิทธิพลจนช่วยเร่งการพิจารณาคดีให้เร็วขึ้นได้

Related NEWS

LATEST NEWS