Home Film News สรุปดราม่า Memoria และทัวร์ของเขา

สรุปดราม่า Memoria และทัวร์ของเขา

สรุปดราม่า Memoria และทัวร์ของเขา

หลังจาก Memoria ผลงานเรื่องล่าสุดของ อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล ประกาศแผนการฉายออกไป มันก็สร้างบทสนทนาอันดุเดือดไว้บนโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นในกลุ่มอุตสาหกรรมภาพยนตร์และคนดูหนัง

Memoria เพิ่งฉายรอบพรีเมียร์ในอเมริกาไปในเทศกาลหนังนิวยอร์ก พร้อมได้รับสแตนดิงโอเวชั่นอย่างกึกก้องอีกครั้ง ไม่ต่างจากตอนไปฉายที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ ต่อมาคนทั้งอุตสาหกรรมหนังก็ถกเถียงกันยกใหญ่เมื่อ NEON ผู้จัดจำหน่ายในอเมริกาประกาศแผนการฉายออกมา

NEON นับเป็นค่ายที่กำลังมือขึ้น เพราะเป็นสตูดิโออิสระน้องใหม่ที่สร้างผลงานด้วยการจัดจำหน่าย Parasite ของ บงจุนโฮ แล้วดันจนคว้าออสการ์ พอปีนี้เขาถือสิทธิหนังรางวัลเมืองคานส์ถึง 3 เรื่อง นอกจาก Memoria เจ้าของรางวัล Jury Prize แล้ว ยังมี The Worst Person in the World ที่คว้านักแสดงหญิงยอดเยี่ยม และ Titane เจ้าของรางวัลปาล์มทอง

แผนการฉายที่กำลังเป็นประเด็นในตอนนี้ของ NEON คือมันจะฉายที่แรกในนิวยอร์กเดือนธันวาคมนี้ จากนั้นหนังจะย้ายที่ฉายไปเรื่อยๆ “จากเมืองหนึ่งสู่อีกเมืองหนึ่ง จากโรงหนึ่งสู่อีกโรงหนึ่ง จากสัปดาห์หนึ่งสู่อีกสัปดาห์หนึ่ง” หรือก็คือการทัวร์ไปเรื่อยๆ โดยไม่ออกดีวีดีและลงสตรีมมิ่งตลอดอายุขัยของมัน ความตั้งใจของ NEON คือจะทัวร์ฉายหนังเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ ‘ไม่มีวันจบ’ โดยค่ายกล่าวว่าวิธีการฉายพร้อมกันหลายจอนั้น “ทำลายประสบการณ์ทางภาพยนตร์ของหนังเรื่องนี้”

ประเด็นถกเถียงคือฝั่งหนึ่งมองว่าการทัวร์ฉาย Memoria ในโรงหนังและปิดหน้าต่าง Home Entertainment ทุกช่องทาง มันยกระดับคุณค่าทางศิลปะขึ้นอีกโข โดยเฉพาะวิทยาการภาพยนตร์ตามคำพูดของอภิชาติพงศ์ตอนรับรางวัลที่เมืองคานส์ว่า “Long live cinema” หรือ “ภาพยนตร์จงเจริญ” รวมไปถึงสร้างคุณค่าให้กับวัฒนธรรมการดูหนัง โดยเฉพาะเมื่อหนังเองก็ได้รับคำชื่นชมในแง่ที่ว่ามันก็ทำหน้าที่สดุดี ‘cinema’ โดยตัวมันเองด้วย

ขณะที่อีกฟากหนึ่งมองว่าการต้านกระแสธารของวัฒนธรรมการดูหนังที่เปลี่ยนไปตามวิถีชีวิตผู้คน กำลังจำกัดจำนวนผู้ชมโดยใช่เหตุ การที่มันจำกัดการฉายแค่เมืองละสัปดาห์เดียวและโรงเดียว เท่ากับว่าจะมีจำนวนผู้ชมมากสุดเพียงหยิบมือเดียวในเมืองนั้นๆ แล้วคนที่พลาดเท่ากับหมดโอกาสสัมผัสประสบการณ์การดูหนังไปเลยงั้นหรือ?

เอ โอ สก็อตต์ นักวิจารณ์บิ๊กเนมเขียนไว้ใน The New York Times ด้วยฐานะของคนที่ต้องมนตร์ cinema ของ Memoria ว่า “มนตร์เสน่ห์ของหนังเรื่องนี้มันเรียกร้องระบบฉายแบบในโรงหนังจริงๆ เพราะมันเป็นหนังที่คลุมเครือ เนิบช้า ไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยบทสนทนา ซึ่งอาจไม่เหมาะกับการเอนตัวดูบนโซฟาหน้าทีวี ที่สามารถดึงคุณออกจากหนังได้ตลอดเวลา”

สก็อตต์ยังเสริมว่า “จริงๆ ผมไม่ได้อยากอยู่ในสมรภูมิถกเถียงเรื่องการดูหนังในโรงกับสตรีมมิ่ง แต่ผมสนับสนุนที่ทางที่ดีที่สุดที่ใครสักคนจะได้ดูหนัง”

อาจกล่าวได้ว่าสก็อตต์เป็นคนหนึ่งที่สนับสนุนการดู Memoria ในโรงหนังเนื่องจากเป็นประสบการณ์การดูหนังที่สมบูรณ์ที่สุด และเป็นที่ทางที่ถูกต้องสำหรับหนังเรื่องนี้

อย่างไรก็ตามดราม่า Memoria กำลังสร้างประเด็นที่ชวนขบคิดอย่างมากสำหรับอุตสาหกรรมหนังและวัฒนธรรมการดูหนังที่กำลังเปลี่ยนผ่านจนเกือบจะสมบูรณ์แล้ว


ข้อมูลประกอบ

https://www.empireonline.com/movies/news/tilda-swinton-starring-memoria-to-play-only-in-cinemas-forever

https://www.indiewire.com/video/james-bond-tilda-swinton-debate-movie-theaters-screen-talk-352-1234670113/

https://www.nytimes.com/2021/10/06/movies/memoria-release-moviegoing.html

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here