กระทรวงวัฒนธรรมของไต้หวันได้เข้าสู่เฟสที่สองของการเยียวอุตสาหกรรมวัฒนธรรมเมื่อต้นเดือนเมษาที่ผ่านมา ในเฟสแรกเงินเยียวยาถูกใช้ไปกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน ผู้สมัครกว่า 7 พันรายได้รับการช่วยเหลือ ภายใต้จุดมุ่งหมายที่ว่า “สนับสนุนธุรกิจ ดูแลคนงาน ปกป้องอาชีพอิสระ” ในเฟสที่สองกระทรวงวัฒนธรรมได้เพิ่มเม็ดเงินการช่วยเหลือสูงขึ้นหลายเท่าตัวที่ 5.22 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน
ส่วนแรกเงินจำนวน 1.8 พันล้าน จะถูกใช้เป็นเงินอุดหนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กในส่วนของการจ่ายค่าจ้างพนักงาน เงินค่าอุปกรณ์และค่าบริหารในตลอดระยะเวลาสามเดือน แต่ละธุรกิจจะได้รับเงินสูงสุดที่ 2.5 ล้าน ส่วนบุคคลทั่วไปในสายงานวัฒนธรรมจะได้รับเงินสูงสุดอยู่ที่ 6 หมื่นดอลลาร์ไต้หวัน
สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ ที่ได้รับผลกระทบทางกระทรวงมีนโยบายช่วยเหลือโดยจ่ายเงินเป็นจำนวน 40 เปอร์เซ็นต์ตลอดระยะเวลาสามเดือน โดยมุ่งไปที่สายงานการแสดง หนัง และสื่อสิ่งพิมพ์ โดยสายงานเหล่านี้มีรายได้ที่ลดลงกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ในช่วงเวลาที่ผ่านมา
ในเฟสที่หนึ่งกระทรวงมีนโยบายอีกอย่างคือ การกู้ยืมเงินสำหรับธุรกิจ SME แต่พบว่าการจำกัดขนาดของธุรกิจทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือธุรกิจบางประเภทที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงเช่นกันได้ เช่น โรงหนัง ร้านหนังสือที่มีหลายสาขา และโรงละคร ในเฟสที่สองกระทรวงจึงเพิ่มธุรกิจเหล่านี้เข้าไปในกลุ่มธุรกิจที่สามารถกู้ยืมเงินได้
ส่วนสุดท้ายคือเหล่าอาชีพอิสระ (ฟรีแลนซ์) ซึ่งเป็นการช่วยเหลือที่มีมาตั้งแต่ในเฟสแรก ผู้ทำงานอาชีพอิสระในสายงานวัฒนธรรมจะได้รับเงินชดเชยคนละ 1 หมื่นดอลลาร์ไต้หวันในแต่ละเดือน ในระยะเวลาตลอดสามเดือนเช่นเดัยวกัน
เราจะเห็นได้ถึงความตั้งใจจริงจังในการเยียวยาและการเห็นความคุณค่าของวัฒนธรรมของรัฐบาลไต้หวันอย่างชัดเจน ไม่เพียงแต่รัฐบาลแต่ยังรวมไปถึงทุกภาคส่วนที่พร้อมใจกันผ่านวิกฤตครั้งนี้ไป ล่าสุดสถานีโทรทัศน์ PTV (สถานีโทรทัศน์สาธารณะไต้หวัน) ได้เปิดแชนแนลออนไลน์ใหม่เพื่อลงการแสดงสดต่างๆ ที่ถูกระงับไปในช่วงเวลานี้ให้คนในประเทศได้ดูกันฟรีๆ ซึ่งสิ่งนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นประโยชน์กับผู้ชมที่หาอะไรดูอยู่ที่บ้าน ยังเป็นการประชาสัมพันธ์การแสดงสดของหมู่คณะต่างๆ ไปในตัว
การเยียวในเฟสที่สองจะเริ่มต้นขึ้นในเร็ววันนี้ และเป็นที่น่าเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าไต้หวันจะไม่หยุดจนกว่าผู้คนทุกคนจะได้รับการดูแลอย่างถึงที่สุด