วงการสะเทือนอย่างไร เมื่อวอร์เนอร์ฯ ประกาศฟ้าผ่า “หนังทุกเรื่องปีหน้าเข้าโรงพร้อมลงออนไลน์”!

อีกหนึ่งคลื่นแห่งความเปลี่ยนแปลงถาโถมหลังวอร์เนอร์บราเทอร์สประกาศฟ้าผ่า”หนังทุกเรื่องปีหน้าเข้าโรงพร้อมลงออนไลน์”!

ข่าวไม่สู้ดีสำหรับธุรกิจโรงหนังหลังโควิดยังคงมีมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดคือการประกาศของค่ายวอร์เนอร์บราเทอร์สที่ว่า หนังใหม่ทั้งหมดของทางค่ายในปีหน้าจะไม่เปิดฉายในโรงก่อนแบบที่เคยเป็นมาอีกต่อไป แต่จะฉายทาง HBO Max ไปด้วยเลยพร้อมกัน! ซึ่งรวมถึงหนังที่เป็นความหวังของบรรดาโรงอย่าง Matrix 4, Dune และหนังหวังรางวัลอย่าง Judas and the Black Messiah ด้วย

ข่าวนี้จะส่งผลสะเทือนแค่ไหนต่อวงการหนัง “วาไรตี้” วิเคราะห์ไว้น่าสนใจ ซึ่งเราขอสรุปมาแบบสังเขปดังนี้


1) จะส่งผลยังไงกับโรงหนัง

แม้วอร์เนอร์ฯ จะบอกว่าขอใช้กลยุทธ์นี้ชั่วคราวแค่ช่วงสถานการณ์ไม่ปกติ แต่เมื่อคนดูคุ้นกับการได้ดูหนังฟอร์มยักษ์ชนโรงที่บ้านอย่างสะดวกเสียแล้ว ต่อไปถ้าค่ายกลับไปใช้วิธีฉายในโรงก่อนแล้วรอสามเดือนจึงลงออนไลน์ คนดูก็อาจไม่ยินดีจะแห่กันไปโรงอย่างเร่งรีบเหมือนเคยแล้วก็ได้ เพราะอันที่จริงก่อนโควิดระบาด ความนิยมต่อโรงหนังก็เริ่มเสื่อมลงอย่างเห็นได้ชัด โรงขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ เริ่มมีปัญหาหนี้สิน ยิ่งค่ายหนังมีท่าทีถอยตัวห่างจากโรงเช่นนี้ โอกาสที่นักลงทุนและธนาคารจะยินดีให้โรงกู้เงินไปหมุนในธุรกิจหลังโควิดก็น่าจะยิ่งน้อยลง จึงน่าจับตามากว่าธุรกิจโรงจะรอดหรือไม่ในปี 2021


2) HBO Max จะเป็นยังไง

ไลน์อัพหนังในแพลตฟอร์มนี้จะร้อนแรงขึ้นทันตาเห็นด้วยหนังอย่าง The Matrix 4, Dune, In the Heights รีเมค, The Many Saints of Newark ภาคพรีเควลของซีรี่ส์ The Sopranos, The Suicide Squad, Godzilla vs. Kong, Conjuring ภาคใหม่, ฯลฯ ซึ่งอาจทำให้คู่แข่งอย่าง Netflix กับ Amazon Prime เริ่มหนาว, อาจกดดันให้ Disney Plus ต้องรีบโชว์ลิสต์หนังในมือออกมาอวด รวมทั้งอาจต้องทบทวนการฉายของ Black Widow ให้ลงออนไลน์พร้อมๆ กับเข้าโรงบ้าง


3) มีอะไรเปลี่ยนแปลงสำหรับค่ายวอร์เนอร์เอง

ค่ายนี้ปรับเปลี่ยนจาก Time Warner มาเป็น WarnerMedia ต้อนรับศตวรรษที่ 21 ซึ่งหมายถึงการที่พวกเขาจะระดมผลิตคอนเทนต์และเผยแพร่มันผ่านช่องทางใหม่ๆ อย่างจริงจัง แน่นอนว่าสำหรับสายหนัง ทีวี และซีรี่ส์แล้ว ปลายทางที่พวกเขากำลังมองว่าเป็นอนาคตก็คือ HBO Max หาใช่โรงหนังไม่


4) สตูดิโออื่นจะได้รับผลกระทบยังไง

ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เกิดรูปแบบการจัดจำหน่ายใหม่ที่เปลี่ยนโฉมหน้าการฉายหนังถึง 2 แบบ แบบแรกคือกรณีวอร์เนอร์ฯ กับ HBO Max ดังที่ว่าไป อีกแบบคือกรณีค่ายยูนิเวอร์แซลที่ทำข้อตกลงกับโรงเครือใหญ่ว่า จะปล่อยหนังใหม่ไปเข้าโรงก่อน 17 วันแล้วลงแพลตฟอร์มวิดีโอออนดีมานด์แบบพรีเมียมต่อทันที ซึ่งแน่นอนว่าแบบหลังนี้ถูกใจโรงหนังมากกว่า แต่แบบแรกอาจจะถูกใจคนดูเพราะเสียเงินน้อยกว่าเยอะ (คือเสียเป็นรายเดือนให้ HBO Max ไปเลย ไม่ต้องมาเช่าดูเป็นเรื่องๆ เรื่องละเกือบ 20 เหรียญแบบที่ยูนิเวอร์แซลทำ) ปีหน้าจึงน่าจับตาว่ายูนิเวอร์แซลจะเปลี่ยนกลยุทธ์หรือไม่หากพบว่าวอร์เนอร์ฯ ประสบความสำเร็จกว่า

และที่แน่ๆ เราคนดูจะได้รับการป้อนคอนเทนต์มหาศาลมาถึงตัวมากขึ้นและเร็วขึ้นทุกที มหกรรมการรอคอยหนังเข้าโรงจะมีความหมายลดลง ซึ่งนั่นอาจเป็นได้ทั้งความเปลี่ยนแปลงด้านร้ายและด้านดี มันชวนให้เราต้องขบคิดกันใหม่อีกครั้งว่า อะไรกันแน่คือความหมายของการดูหนัง และการไปโรงหนัง?

Related NEWS

LATEST NEWS