เป็นเสด็จพ่อโนแลนมันช่างน่าเห็นใจเหลือเกิน นอกจากหนังสายลับลี้ลับระทึกขวัญเรื่องล่าสุดของเขาคือ Tenet จะต้องแบกความกดดันมหาศาล เพราะถูกคาดหวังว่าจะเป็น “หนังใหญ่เรื่องแรกที่ดึงชาวโลกกลับเข้าโรงหนังได้สำเร็จอย่างแท้จริง” แล้ว วันนี้ยังมีตัวเลขเปิดเผยออกมาอีกด้วยว่า เนื่องจากหนังลงทุนทั้งค่าผลิตและค่าการตลาดไปถึง 400 ล้านเหรียญ แปลว่ามันต้องทำเงินทั่วโลกอย่างน้อย 800 ล้านเหรียญ…จึงจะคุ้มทุน!
หลายคนได้ยินแล้วต้องอุทานว่า คุณพระ มันจะเป็นจริงไปได้อย่างไร เพราะค่ายวอร์เนอร์บราเทอร์สวางกำหนดฉายไว้เดิมคือ 12 สิงหาคมนี้แล้ว ซึ่งในช่วงเวลาแบบนี้ ผู้คนจะพร้อมแห่กันกลับเข้าโรงอย่างแน่นขนัดจนทำเงินได้ระดับนั้นจริงหรือ?
ความน่าปวดหัวไม่จบแค่นั้น ข่าวรายงานด้วยว่า แม้ คริสโตเฟอร์ โนแลน กับค่ายวอร์เนอร์ฯ จะเห็นพ้องกันว่าอยากให้หนังเข้าโรงจะแย่แล้ว แต่ก็ยังมีความขัดแย้งกันในประเด็นสำคัญมากๆ นั่นคือ ค่ายเห็นควรให้หนังเปิดตัวโกยเงินในตลาดโลกก่อนอเมริกาไปเลย (เพราะสถานการณ์โรคระบาดในอเมริกายังน่าห่วงอยู่มาก) แต่โนแลนกลับยืนกรานว่าต้องเปิดพร้อมกัน เพราะเขาต้องการสนับสนุนโรงหนังในอเมริกาให้รอด และเขาก็ไม่อยากเสี่ยงกับการที่หนังซึ่งเต็มไปด้วยความลับเรื่องนี้จะถูกคนที่ได้ดูก่อนนำมาสปอยล์ด้วย
จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครรู้อะไรเกี่ยวกับ Tenet มากนัก รู้แค่ว่าเป็นหนังเกี่ยวกับ “ตัวเอกผู้เดินทางผ่านโลกสนธยาพร้อมภารกิจสายลับข้ามชาติซึ่งเกี่ยวข้องกับอะไรบางอย่างที่เหนือพ้นไปจากเส้นเวลาจริง” (เกาหัว), หนังยาว 149 นาที 59 วินาที (นับว่าเป็นหนึ่งในหนังสั้นที่สุดของโนแลน ><) และตัวโนแลนก็ยั่วๆ ด้วยการบอกว่า “นี่คือหนังที่ทั้งภาพและเสียงถูกทำมาเพื่อให้คุณดูบนจอใหญ่ในโรงเท่านั้น เราเคยทำหนังใหญ่กันมาหลายเรื่องก็จริง แต่นี่คือหนังใหญ่ระดับโลกและมีแอ็กชั่นแบบที่เราไม่เคยกล้าทำมาก่อนเลย”
อนึ่ง ตอนนี้ยังไม่รู้ชัดว่าตกลงหนังจะเข้าวันไหนแน่จ้ะ