ปีนี้จะเป็นปีที่ 73 ในการจัดเทศกาลหนังเมืองคานส์ ถ้าเทศกาลไม่ถูกงดไปเสียก่อน และเราคงจะได้รู้ผลว่าหนังเรื่องอะไรที่จะได้รับรางวัลสูงสุดจากเวทีนี้ตาม Parasite ไปตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม แต่อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา ประธานของเทศกาล Pierre Lescure และผู้แทนเทศกาล Thierry Frémaux ออกมาประกาศรายชื่อหนังทั้งหมด 56 เรื่องที่ทางเทศกาลได้คัดเลือกให้ฉายหากงานได้จัดขึ้นโดยรวมทุกสายประกวดเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งหนังทั้งหมดจะมีสิทธิ์ที่แปะโลโก้คานส์อย่างเป็นทางการ
ในปีนี้คานส์มีหนังที่ผ่านการพิจารณาถึง 2,067 เรื่องมากกว่าปีที่แล้วที่มีอยู่ 1,845 เรื่อง 15 ในจำนวน 56 เรื่องเป็นหนังเรื่องเปิดตัวของผู้กำกับ ในขณะที่อีก 16 เรื่องเป็นหนังที่กำกับโดยผู้หญิง แต่ถึงอย่างไรก็ตามปีนี้มีหนังฝรั่งเศสที่ถูกเลือกถึง 21 เรื่อง ซึ่งมากกว่าปีก่อนๆ ที่ผ่านมา
ในส่วนของฝั่งสายคานส์คลาสสิคที่ปีนี้จะมี In the Mood for Love ของหว่องกาไว และจะถูกประกาศเร็วนี้ๆ ว่ามีเรื่องอะไรบ้าง และสำหรับ In the Mood for Love ก็มีแผนที่จะฉายทั่วฝรั่งเศสในเดือนธันวาคม
สุดท้ายก่อนที่เราจะไปดูว่ามีอะไรที่น่าสนใจในไลน์อัพบ้าง หนังทั้งหมดจะถูกฉายในเทศกาลต่างๆ ทั่วโลกหลังจากนี้ ซึ่งการจัดการจะเป็นอย่างไรก็จะถูกประกาศต่อไป แต่ท่านประธานได้บอกไว้ว่า คานส์จะคอย “สนับสนุน” เทศกาลต่างๆ ที่นำหนังเหล่านี้ไปฉาย เราคงต้องมารอดูต่อไปว่า หนังเหล่านี้จะได้เปิดตัวในเทศกาลใดในเวลาไหนกันบ้าง
ในบรรดาหนังทั้งหมด 56 เรื่อง เราคงไม่พูดถึงหนังรวมดาวเรื่องล่าสุดของผู้กำกับ Wes Anderson ไม่ได้ The French Dispatch ปล่อยตัวอย่างมาเรียกเสียงฮือฮาให้ชมกันตั้งแต่ช่วงต้นปี หนังบอกเล่าชีวิตของนักข่าวชาวอเมริกันผู้ทำงานในฝรั่งเศส หนังถูกบรรยายว่ามันเป็น “จดหมายรัก” ถึงนักข่าว ร่วมด้วยดาราเกือบยี่สิบชีวิตที่ถ้าหนังได้ฉายในเทศกาลปีนี้เราคงเห็นภาพพรมแดงล้นทะลัก The French Dispatch มีกำหนดฉายในเดือนตุลาคมจากกำหนดการเดิมในเดือนมิถุนายน
Steve McQueen จาก 12 Years a Slave และ Shame มีหนังอยู่ในรายชื่อถึงสองเรื่อง (Lover’s Rock, Mangrove) เขาออกมาประกาศว่าหนังทั้งสองเรื่องเกี่ยวกับการเหยียดผิวในประเทศอังกฤษ และเขาขออุทิศหนังเรื่องนี้แด่ George Floyd และเหล่าผู้คนผิวสีทั่วโลก ทั้ง Lover’s Rock และ Mangrove เป็นส่วนหนึ่งของทีวีซีรีส์จากอังกฤษที่เขาทำมีชื่อว่า “Small Axe” มีที่มาจากสำนวนแอฟริกันที่พูดว่า “ถ้าคุณเป็นต้นไม้ใหญ่ ฉันก็เป็นขวานอันเล็กๆ” McQueen เป็นหนึ่งในสองผู้กำกับผิวสีที่อยู่ในไลน์อัพปีนี้
เกาหลีเจ้าของปาล์มทองและออสการ์ปีล่าสุดกลับมาพร้อมกับหนังสองเรื่อง Heaven: To the Land of Happiness โดย Im Sang Soo ซึ่งถือเป็นการกลับมาครั้งที่สี่ในเวทีนี้หลังจาก The President’s Last Bang, The Housemaid และ The Taste of Money นำแสดงโดย Choi Min Sik ที่ทุกคนจะจำเขาได้ใน Old Boy เรื่องราวของชายสองคนที่พบกันโดยบังเอิญและมุ่งหน้าออกเดินทางไปสู่ความสุขสุดท้ายในชีวิต ส่วนอีกเรื่องหนึ่งคือ Peninsula โดย Yeon Sang-Ho ภาคต่อของ Train to Busan เรื่องราวสี่ปีหลังจากภาคแรก ผู้กำกับให้สัมภาษณ์ว่า หนังจะอยู่ในจักรวาลเดียวกัน แต่เรื่องและตัวละครจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน รวมถึงสเกลหนังที่จะใหญ่ขึ้น โดย “Peninsula จะทำให้ Train to Busan ดูเป็นหนังอินดี้ไปเลยล่ะครับ” ผู้กำกับ Yeon กล่าว หนังเกาหลีทั้งสองเรื่องนี้มีกำหนดฉายในครึ่งหลังปีนี้
ในปีนี้ François Ozon (Swimming Pool, 5×2) กลับมาในหนังชื่อ Summer 85 บอกเล่าเรื่องราวเด็กหนุ่มอายุ 16 ที่เฝ้าฝันถึงความตาย ผู้กำกับเลือกฉากหลังเป็นรีสอร์ตชายฝั่งนอร์มังดีในช่วงยุค 80 นี่เป็นครั้งที่ห้าที่ Ozon กลับมาในเทศกาลคานส์ โดยที่เขายังไม่เคยชนะรางวัลอะไรจากเวทีเลย ผู้กำกับอีกคนที่มีชื่ออยู่ในเทศกาลมาหลายต่อครั้งแต่ยังไม่เคยชนะรางวัลใหญ่สุดไป คือ Naomi Kawase เธอกลับมาในหนังชื่อ True Mothers เรื่องของสองสามีภรรยาที่ตัดสินใจรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมและพบว่าถูกขู่เอาเงินจากผู้หญิงลึกลับผู้หนึ่งที่อ้างตนว่าเธอคือ แม่ที่แท้จริงของเด็ก
นอกจาก Kawase แล้ว ยังมีผู้กำกับญี่ปุ่นอีกสองคนที่ได้รับเลือกในปีนี้ เรื่องแรกคือ Aya and the Witch โดย Goro Miyasaki ลูกชาย Hayao Miyasaki นี่เป็นแอนิเมชั่นเรื่องแรกจากสตูดิโอจิบลิที่จะใช้เทคนิคตอมพิวเตอร์กราฟฟิค ตัวเรื่องดัดแปลงจากนิยายของ Diana Jones ที่ Hayao เคยดัดแปลงมาแล้วครั้งหนึ่งใน Howl’s Moving Castle ส่วน Aya and the Witch มีกำหนดฉายในช่อง NHK ช่วงฤดูหนาว แต่ยังไม่มีวันเวลาที่ชัดเจน เรื่องที่สองเป็นผลงานจาก Kôji Fukada ที่เราคงคุ้นเคยจาก Harmonium ในชื่อ The Real Thing เรื่องราวของชายหนุ่มแสนดีผู้กำลังตกหลุมรักหญิงสาวผู้หนึ่งที่กำลังจะพาเขาเข้าไปสู่ด้านมืด ตัวหนังเดิมเป็นซีรีส์ยาว 10 ตอน ความยาวรวม 5 ชั่วโมง ส่วนฉบับที่เดิมวางแผนไว้ว่าจะเปิดตัวที่เทศกาลน่าจะเป็นเวอร์ชั่นที่ตัดตอนมาจากซีรีส์ในความยาว 3 ชั่วโมง 48 นาที ถือเป็นหนังที่มีความยาวที่สุดในเทศกาลปีนี้
อีกหนึ่งแอนิเมชั่นในจำนวนสี่เรื่องในปีนี้คือ Soul ของสตูดิโอพิกซาร์ โดย Pete Docter จาก Up และ Inside Out ทางพิกซาร์ได้ออกมาบอกว่า Soul เปรียบเสมือนกับ Inside Out ในรูปแบบที่เป็นผู้ใหญ่มากกว่า ตัวเรื่องเล่าเรื่องราวของ ชายหนุ่มผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นนักดนตรีแจ๊ซ และกำลังจะได้ขึ้นแสดง แต่โชคร้ายที่เขาเกิดอุบัติเหตุทำให้วิญญาณหลุดออกไปจากร่างและเขาต้องร่วมมือกับจิตวิญญาณเพื่อหาทางกลับมายังร่างกายของเขา ตัวหนังมีกำหนดฉายในเดือนพฤศจิกายนในปีนี้
หนึ่งในผู้กำกับที่ได้รับเลือกครั้งแรกที่น่าสนใจคือ Francis Lee (God’s Own Country) ในผลงาน Ammonite นำแสดงโดย Kate Winslet และ Saoirse Ronan เรื่องราวของ Mary Anning นักขุดฟอสซิลหญิงผู้โด่งดังและความสัมพันธ์ของเธอกับหญิงสาวผู้หนึ่ง ตัวหนังอื้อฉาวตั้งแต่ยังไม่ถ่ายทำ เมื่อลูกหลายของ Anning ออกมาบอกว่า หนังสร้างเรื่องที่เธอเป็นเลสเบี้ยนขึ้นมาเอง ทั้งๆ ที่ไม่เคยมีการยืนยันว่าเธอเป็นจริงๆ ไหม ในขณะที่ Lee เองก็โต้ตอบใน Twitter ของเขาอย่างยาวเหยียดเช่นเดียวกัน ส่วนตัวหนัง Ammonite ยังไม่มีกำหนดฉายที่ชัดเจนในตอนนี้
Septet: The Story Of Hong Kong จากฮ่องกง เป็นหนึ่งในหนังที่น่าตื่นเต้นมากๆ ในปีนี้ โดยหนังรวมผู้กำกับชาวฮ่องกง 7 คนมาทำหนังสั้นเกี่ยวกับฮ่องกงในมุมมองของตน ประกอบไปด้วย Johhny To (ตู้ ฉีฟง), Hark Tsui (ฉีเคอะ), Ann Hui, Ringo Lam, Patrick Tam, Sammo Hung (หง จินเป่า) และ Yuen Wo Ping ตัวหนังรอได้รับการฉายมาหลายปีและจะได้เปิดตัวในปีนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่เทศกาลถูกยกเลิกและตอนนี้ยังไม่มีข่าวออกมาว่าหนังจะฉายเมื่อไหร่
หนังเรื่องสุดท้ายที่เราจะพูดถึงคือ Enfant Terrible โดย Oskar Roehler จากเยอรมนี เรื่องราวชีวประวัติของ Rainer Werner Fassbinder ผู้กำกับชาวเยอรมันผู้ลือลั่นในช่วงยุค 70 เขาสร้างหนังกว่า 40 เรื่องในระยะเวลา 10 กว่าปี ก่อนที่จะเสียชีวิตในวัย 37 ด้วยการเสพยาเกินขนาด ตัวหนังปล่อยตัวอย่างออกมาแล้ว และกำลังรอการจัดจำหน่ายในลำดับต่อไป
รายชื่อหนังทั้งหมด 56 เรื่อง
THE FAITHFUL
(เคยถูกเลือกอย่างน้อยหนึ่งครั้ง)
THE FRENCH DISPATCH, Wes Anderson (USA)
SUMMER 85, François Ozon (France)
ASA GA KURU (True Mothers), Naomi Kawase (Japan)
LOVERS ROCK, Steve McQueen (England)
MANGROVE, Steve McQueen (England)
DRUK (Another Round), Thomas Vinterberg (Denmark)
DNA, Maïwenn (Algeria / France)
LAST WORDS, Jonathan Nossiter (USA)
HEAVEN: TO THE LAND OF HAPPINESS, IM Sang-Soo (Korea)
EL OLVIDO QUE SEREMOS (Forgotten we’ll be), Fernando Trueba (Spain)
PENINSULA, YEON Sang-Ho (Korea)
IN THE DUSK (At dusk), Sharunas BARTAS (Lithuania)
DES HOMMES (Home Front), Lucas BELVAUX (Belgium)
THE REAL THING, Kôji Fukada (Japan)
THE NEW COMERS
(ถูกเลือกครั้งแรก)
PASSION SIMPLE, Danielle Arbid (Lebanon)
A GOOD MAN, Marie Castille Mention-Schaar (France)
THE THINGS YOU SAY, THE THINGS YOU DO, Emmanuel Mouret (France)
SOUAD, Ayten Amin (Egypt)
LIMBO, Ben Sharrock (England)
ROUGE (Red Soil), Farid Bentoumi (France)
SWEAT, Magnus Von Horn (Sweden)
TEDDY, Ludovic and Zoran Boukherma (France)
FEBRUARY, Kamen Kalev (Bulgaria)
AMMONITE, Francis Lee (England)
A NIGHT DOCTOR, Elie Wajeman (France)
ENFANT TERRIBLE, Oskar Roehler (Germany)
NADIA, BUTTERFLY, Pascal Plante (Canada)
HERE WE ARE, Nir Bergman (Israel)
AN OMNIBUS FILM
SEPTET: THE STORY OF HONG KONG, Ann Hui, Johnnie TO, Tsui Hark, Sammo Hung, Yuen Woo-Ping and Patrick Tam (Hong Kong)
THE FIRST FEATURES
(หนังเรื่องแรกของผู้กำกับ)
FALLING, Viggo Mortensen (USA)
PLEASURE, Ninja Thyberg (Sweden)
SLALOM, Charlène Favier (France)
CASA DE ANTIGUIDADES (Memory House), Joao Paulo Miranda Maria (Brazil)
BROKEN KEYS (False note), Jimmy Keyrouz (Lebanon)
IBRAHIM, Samir Guesmi (France)
BEGINNING (In the beginning), Déa Kulumbegashvili (Georgia)
GAGARINE, Fanny Liatard and Jérémy Trouilh (France)
16 SPRING, Suzanne Lindon (France)
VAURIEN, Peter Dourountzis (France)
GARÇON CHIFFON, Nicolas Maury (France)
SI LE VENT TOMBE (Should the Wind Fall), Nora Martirosyan (Armenia)
JOHN AND THE HOLE, Pascual Sisto (USA)
INTO THE WIND (Running with the Wind), Shujun WEI (China)
THE DEATH OF CINEMA AND MY FATHER TOO (The film Death and my father too), Dani Rosenberg (Israel)
3 DOCUMENTARIES
(หนังสารคดี)
ON THE ROUTE FOR THE BILLION (The Billion Road), Dieudo Hamadi (Democratic Republic of the Congo)
THE TRUFFLE HUNTERS, Michael Dweck and Gregory Kershaw (USA)
9 DAYS AT RAQQA, Xavier de Lauzanne (France)
5 COMEDIES
หนังตลก
ANTOINETTE IN THE CÉVÈNNES, Caroline Vignal (France)
LES DEUX ALFRED, Bruno Podalydès (France)
UN TRIOMPHE (The Big Hit), Emmanuel Courcol (France)
THE ORIGIN OF THE WORLD, Laurent Lafitte (France)
THE SPEECH, Laurent Tirard (France)
4 ANIMATED MOVIES
หนังแอนิเมชัน
AYA TO MAJO (Aya and the Witch), Gorô Miyazaki (Japan)
FLEE, Jonas Poher Rasmussen (Denmark)
JOSEP, Aurel (France)
SOUL, Pete Docter (USA)