SXSW เป็นเทศกาลหนังที่โดนยกเลิกก่อนจัดงานไปไม่กี่วันเพราะโควิด-19 ระบาด ล่าสุดหนังในเทศกาลทั้งหมดจะลงให้ดูฟรี 10 วัน ทาง Amazon Prime ในอเมริกา แบบไม่ต้องเป็นสมาชิกก็เข้าไปดูได้เลย แถมยังประกาศว่านอกจาก SXSW แล้วก็พร้อมจะรองรับหนังที่ได้รับคัดเลือกจากเทศกาลเล็กๆ อีกมากมายหลังจากนี้ด้วย
เรื่องนี้สำคัญเพราะในปีนี้วงการหนังมีที่ท่าว่าจะชะงักพร้อมกันทั้งกระบวน อันจะส่งผลให้หนังอิสระจำนวนหนึ่งซึ่งยังไม่ได้เผยแพร่เพื่อพิสูจน์ตัวเองตามเทศกาลหนังต่างๆ จะมีโอกาสน้อยนิดในการที่จะเข้าถึงผู้จัดจำหน่ายได้ ซึ่งสำหรับหนังอิสระแล้วเท่ากับเป็นการถอดเครื่องช่วยหายใจให้กับหนังตัวเองทันที
ในช่วงที่ผ่านมามีเทศกาลหนังทั่วโลกจำนวนมากยกเลิกและเลื่อนกำหนดออกไป สองเทศกาลในนั้นคือ SXSW และ Tribeca ซึ่งเป็นเทศกาลใหญ่ในสายอิสระ หนังส่วนใหญ่ที่ได้รับเลือกจะมาจากคนทำหนังที่ยังไม่มีโปรไฟล์มากพอให้ผู้แทนจำหน่ายวิ่งเข้าหา เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงจำต้องอาศัยเทศกาลหนังช่วยแนะนำให้ผู้ชม สื่อมวลชน และผู้จัดจำหน่ายจากทั่วโลกได้รู้จัก
โนอาห์ ฮัตตัน ผกก. Lapsis หนังไซ-ไฟที่เข้าประกวดใน SXSW คือหนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบนี้ และหลังจากรู้ว่าเทศกาลปีนี้ยกเลิก เขาเร่งจัดแจงร่อนอีเมล์หาผู้จัดจำหน่ายหลายรายเพื่อแนะนำหนังด้วยตัวเอง “มันเป็นหนังที่อิสระตั้งแต่จิตวิญญาณ ไม่มีบุคลากรที่มีชื่อเสียงพอจะขายได้ มันเลยเป็นการรวมตัวกันของทีมงานที่ทุ่มเทเต็มร้อย” แน่นอนว่าสำหรับคนทำหนังที่เกิดจากการทุ่มเทสุดชีวิตเช่นนี้ การปล่อยให้มันจางหายไปจากสารบบโดยไม่มีใครได้ดูนั้นเจ็บปวดขนาดไหน
การดิ้นรนของฮัตตันเป็นแค่ส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์แตกฮือของคนทำหนังอิสระ อีกหลายโปรเจกต์ต่างก็คิดวิธีพาหนังไปหาผู้จัดจำหน่ายของตัวเองให้เจอ ซึ่งเป็นวิถีที่แตกต่างจากหนังสตูดิโอซึ่งพอโรงหนังปิดอย่างไม่มีกำหนดก็พอจะมีลู่ทางอื่นรองรับไว้ได้บ้างอย่างตลาดสตรีมมิ่ง
เทศกาลหนังเสมือน และ ตลาดหนังเสมือน จึงเป็นสิ่งที่คนทำหนังอิสระเรียกร้องให้เกิดขึ้นทดแทนในช่วงนี้ เพราะมันเป็นท่อน้ำเลี้ยงที่สำคัญของวงการหนังอิสระ “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ Amazon Prime เสนอตัวเข้ามาจัดเทศกาลหนังออนไลน์และเชื่อมต่อโดยตรงจากกลุ่มผู้ชมของเขามาหาคนทำหนังของเรา มันเกิดจากการที่เราพยายามพลิกแพลงวิกฤตท่ามกลางความนิ่งสนิทในวงการหนังขณะนี้ให้มีความเคลื่อนไหวรูปแบบใหม่ๆ” เจเน็ต เปียร์สัน ผู้จัดเทศกาลหนัง SXSW กล่าว
ท่ามกลางบรรยากาศการหนีตายของคนทำหนังทั่วโลกจนเกิดเทศกาลหนังออนไลน์ขึ้นอันเป็นความร่วมมือกันของเทศกาลหนังที่ยิ่งใหญ่และผู้ให้บริการสตรีมมิ่งอันใหญ่ยิ่ง อาจเป็นเพียงหนึ่งวิธีเยียวยาคนทำหนังอิสระเฉพาะหน้ากันไปก่อน แต่ขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับว่าวิธีดังกล่าวนี้เป็นการได้ผลประโยชน์ด้วยกันทุกฝ่ายทั้งคนทำหนัง เทศกาลหนัง ผู้ให้บริการ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง…ผู้ชม
หากผลประกอบการดังกล่าวดันออกมาเข้าท่า ไม่แน่ว่ามันอาจเปลี่ยนคุณค่าของเทศกาลหนังไปเลยก็ได้