เบื้องหลังดีลยักษ์ Greyhound – Apple พยายามทำอะไรอยู่?

Greyhound โผล่มาเซอร์ไพรซ์สมาชิก AppleTV+ เพราะนี่ถือเป็นหนังฟอร์มโตที่นำแสดงโดยดาราเกรดเอ ทอม แฮงคส์ ซึ่งเดิมทีเป็นโปรแกรมวันพ่อแห่งชาติ (อเมริกา) ของ โซนี พิคเจอร์ส แต่จู่ๆ ก็แปรสภาพเป็นออริจินัลคอนเทนต์ของ Apple และลัดคิวฉายให้สมาชิกดูพร้อมกันทั่วโลกเมื่อ 10 ก.ค. ที่ผ่านมานี้เอง โดย Apple ยอมควักค่าสิทธิสูงถึง 70 ล้านเหรียญฯ เพื่อแลกกับสิทธิสตรีมมิ่งทาง AppleTV+ นาน 15 ปี ลงทุนขนาดนี้ Apple หวังอะไร? 

70 ล้านเหรียญฯ ที่ Apple ควักกระเป๋าซื้อ Greyhound คือการลงทุนซื้อคอนเทนต์ครั้งใหญ่ที่สุดแล้ว และอาจสูงที่สุดเท่าที่มีการซื้อสิทธิหนังแบบออริจินัลมาแล้วก็ได้ แต่อย่างไรเสียก็ยังเหลือประเทศจีนให้โซนีฯ เอาเข้าโรงไว้หนึ่งประเทศใหญ่ๆ 

ย้อนกลับไปเมื่อกลางเดือน พ.ค. เว็บไซต์บลูมเบิร์กรายงานว่า Apple กำลังปรับกลยุทธ์ใหม่ให้กับ AppleTV+ ในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการสตรีมมิ่งที่มาทีหลัง แล้วจะเอาอะไรไปสู้กับเขา เพราะทั้ง Netflix, Amazon Prime และ Hulu กว้านสมาชิกเอาไปตุนไว้เพียบแล้ว ยิ่งช่วงโควิดยิ่งเป็นโอกาสอันดีแต่อาวุธไม่แข็งพอ 

จากเดิมที่ Apple วางจุดแข็งของตัวเองไว้ว่าจะนำเสนอออริจินัลคอนเทนต์ 100% เลยต้องกลืนน้ำลายตัวเอง ไล่กว้านซื้อหนังและซีรีส์เก่าๆ จากค่ายต่างๆ มาสะสมไว้ด้วยอีกทาง เพราะเริ่มตระหนักแล้วว่าคุณภาพที่อยู่ภายใต้การผลิตของตัวเองอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ชมอีกต่อไปแล้ว บางทีความหลากหลายของเนื้อหาก็เป็นปัจจัยกระตุ้นการตัดสินใจให้สมาชิกใหม่ด้วย 

ดีลยักษ์ของ Greyhound ก็เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันนี้เอง เพราะหลังจากหนังต้องเลื่อนวันฉายอย่างไม่มีกำหนดเพราะโควิด สตูดิโอก็ยังที่โปรแกรมที่ดีที่สุดให้กับมันไม่ได้ เลยเปิดช่องให้ Netflix และ Apple เข้ามาเสนอราคา และสุดท้ายก็จบกับ Apple ที่เปย์หนักกว่า ควักให้ 70 ล้านเหรียญฯ จากทุนสร้าง 50 ล้านเหรียญฯ เท่านั้น

ต่อเนื่องมาจากวิกฤตโควิด นอกจากจะทำให้ไลน์อัพหนังโรงรวนต่อเนื่องข้ามไปสองปีแล้ว Apple และผู้ให้บริการสตรีมมิ่งรายอื่นๆ ต่างก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เพราะหนังและซีรีส์ไม่สามารถถ่ายทำได้หลายเดือน หากมองไปถึงอนาคต แน่นอนว่าผู้ให้บริการเหล่านี้จะขาดคอนเทนต์ไปช่วงหนึ่งแน่นอน จึงจำเป็นต้องหาคอนเทนต์จากแหล่งอื่นมาอุดช่องว่างเหล่านั้นให้ได้ 

Greyhound เป็นหนังที่ทะเยอทะยานที่สุดของ ทอม แฮงคส์ แล้วก็ว่าได้ มันกำกับโดย อารอน ชไนเดอร์ (Get Low) และเขียนบทโดยแฮงคส์เอง ซึ่งดัดแปลงมาจากนิยาย The Good Shephard ของ ซี เอส ฟอเรสเตอร์ โดยแฮงคส์รับบทเป็นกัปตันเคลาส์ ที่นำทัพต่อสู้กับเรือดำน้ำอูของกองทัพนาซี ซึ่งซุ่มโจมตีพวกเขาจากใต้น้ำ ขณะมุ่งหน้าสู่อังกฤษ ผกก.ชไนเดอร์บอกว่าหนังเรื่องนี้แทบจะกลั่นออกมาจากการรับบท “กัปตัน” มาทั้งชีวิตของแฮงคส์ ไม่ว่าจะเป็น Captain Phillips, Saving Private Ryan และ Sully ประกอบกับความหมกมุ่นในสงครามโลกครั้งที่สองของเจ้าตัว (จนเกิดซีรีส์ Band of Brothers) จึงไม่แปลกหากมันจะทำให้แฮงคส์รักและคาดหวังกับหนังเรื่องนี้มากมาย

“ผมหัวใจสลาย” แฮงคส์บอกกับเดอะการ์เดียน “ผมไม่ได้โกรธ Apple หรอกนะ แต่คุณภาพของภาพและเสียงที่คุณจะได้รับจากการดูหนังเรื่องนี้มันคนละชั้นกัน จนน่าเสียดายถ้าคุณจะมีโอกาสดูมันแค่ในทีวีเท่านั้น”

Related NEWS

LATEST NEWS