“เราต้องรอดไปด้วยกัน” วงการหนังญี่ปุ่นสู้เพื่อช่วยเหลือโรงหนังอิสระ

ญี่ปุ่นมีตลาดหนังที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของเอเชีย ในปี 2019 ญี่ปุ่นมีโรงหนังกว่า 3,583 โรง ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนๆ ในขณะที่หนังออกฉายในปีที่แล้วก็พุ่งขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 689 เรื่อง แต่การเติบโตเหล่านี้ก็ถึงต้องหยุดชะงักลง

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่าน นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะได้ประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศญี่ปุ่น เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อเครือข่ายโรงหนังทั้งหมดในญี่ปุ่น

บริษัทที่ใหญ่ที่สุดอย่าง โทโฮ ประกาศปิดโรงหนังของตนทั้งหมด 695 โรง ตั้งแต่วันที่อาเบะประกาศในวันแรกและยาวไปถึงวันที่ 6 พฤษภาคม เหตุผลหนึ่งมาจากยอดคนดูในต้นเดือนเมษายนที่ดิ่งลงเหวอย่างไม่เคยมีมาก่อน ข้อมูลจากเว็บ Box Office อย่าง Eiga ชี้ให้เห็นว่า คนดูลดลงกว่า 90% จากเดือนที่แล้ว

แต่คนที่ได้รับผลกระทบใหญ่กว่าคือ โรงหนังอาร์ตเฮ้าส์อิสระต่างๆ ที่กระจายตัวอย่างมากมายในญี่ปุ่น ทาคาชิ อาไซ ผู้อำนวยการสร้างหนังและหนึ่งในผู้ก่อตั้งโรงหนัง Uplink ในย่านชิบูย่าบอกว่า เขาต้องปรับตัวโดยการฉายหนังต่างๆ ให้บริการบนสตรีมมิ่งแทน เพราะเขายังคงต้องจ่ายค่าเช่าสถานที่และค่าพนักงานอยู่ นี่เป็นหนึ่งในวิธีการที่โรงหนังอาร์ตเฮ้าส์ทั่วญี่ปุ่นกำลังทำตาม

เหล่าคนทำหนังและผู้รักหนังได้ร่วมกันสร้างแคมเปญรณรงค์ในเว็บไซต์ change.org ภายใต้ชื่อว่า #SaveTheCinema โดยพวกเขาประกาศว่า “หนังจะไม่สมบูรณ์หากไร้ผู้ชม โรงหนังคือตัวเชื่อมระหว่างหนังและผู้ชม พวกเขาคือแนวหน้าสุดของศิลปะหนัง พวกเราต้องการปกป้องพวกเขา” แคมเปญเรียกร้องให้รัฐบาลจ่ายเงินชดเชยให้กับเจ้าของโรงหนังและมีคนในวงการหนังเข้ามาสนับสนุนมากมายไม่ว่าจะเป็น ฮิโรคาสุ โคเรเอดะ (Shoplifters, Nobody Knows) และชินยะ ซึกาโมโต (Tetsuo: The Iron Man)

อีกหนึ่งแคมเปญที่เกิดขึ้นคือ การระดมทุนในเว็บไซต์ Motion-gallery.net นำทีมโดยผู้กำกับ โคจิ ฟุคุดะ (Harmonium) และเรียวซุเกะ ฮามากุชิ (Happy Hours, Asako I & II) ผู้คนกว่าหนึ่งหมื่นคนให้ความสนใจในการระดมทุนนี้

”พวกเราแจกจ่ายรายได้จากการขายสินค้านี้ให้กับโรงภาพยนตร์ที่เข้าร่วมอย่างเท่าเทียมกัน”

นอกจากนั้นยังมีแคมเปญ Save Our Local Cinema โดยโรงหนัง 13 โรงในภูมิภาคคันไซ พวกเขาขายเสื้อเพื่อระดมทุนช่วยโรงหนังในท้องถิ่น

แม้ว่าโทโฮจะเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีมัลติเพล็กซ์ครอบคลุมไปทั่วประเทศ แต่โรงหนังอิสระเหล่านี้ต่างหากที่ทำให้วงการหนังของญี่ปุ่นรุ่มรวย เหล่าคนทำหนังต่างรับรู้ในจุดนี้ดี เพราะถ้าหากโรงหนังอิสระเหล่านี้ปิดตัวลง คนทำหนังจำนวนมากจะไม่มีพื้นที่ในการฉายหนังของเขา นอกจากในช่องทางออนไลน์หรือหนักที่สุดมันอาจจะไม่ได้รับการฉายใดๆ เลยก็เป็นไปได้

Related NEWS

LATEST NEWS