7 หนังเกาหลีคลาสสิค คัดสรรโดย บอง จุน โฮ

คงจะไม่เป็นคำพูดที่เกินจริงไปนักถ้าเราจะบอกว่า บอง จุน โฮ เป็นหนึ่งในผู้กำกับที่ประสบความสำเร็จที่สุดในปีที่แล้วและ Parasite ยังคงเป็นหนังที่ถูกพูดถึงจนกระทั่งตอนนี้ ตัวหนังถูกอ้างถึงควบคู่ไปกับสถานการณ์มากมายและมันคงจะเป็นหนังคลาสสิคเมื่อเวลาผ่านไป

อีกหนึ่งสิ่งที่ควรกล่าวถึงบองคือเขาเป็นนักดูหนังตัวยง และเมื่อเร็วๆ นี้ Korean Film Archive ได้ลงเพลยลิสต์ใหม่ในชื่อ “หนังโปรดเจ็ดเรื่องของบองจุนโฮ” ซึ่งเป็นโปรแกรมที่เกิดจากการแนะนำหนังเกาหลีจำนวน 10 เรื่องในงาน Lumiere Film Festival ซึ่งเขาคัดสรรด้วยตัวเอง หนังทั้งหมดดูฟรีพร้อมซับไตเติ้ลอังกฤษ มีบางเรื่องถูกบูรณะแล้ว แต่เรื่องที่ไม่ได้บูรณะก็ยังมีคุณภาพที่ดูได้ ไม่ได้มีอะไรขี้เหร่

อย่างที่เราเคยแนะนำไปในบทความก่อนๆ ในแชนแนลยังมีหนังที่เปิดให้ชมกันฟรีๆ ในจำนวนมหาศาล ซึ่งเราน่าจะมีโอกาสได้แนะนำถึงในโอกาสต่อไปแน่นอน

(เข้าไปดูเพลสลิสต์ได้ในวิดีโอข้างล่าง)


A Short Love Affair (1990, Jang Sun-woo)

คู่สามีภรรยาเดินทางมายังต่างจังหวัดเพื่อหาโอกาสที่ดีกว่าในหน้าที่การงาน ฝ่ายสามีเป็นผู้ชายชอบเอา เขามีอาชีพเป็นช่างเย็บผ้า ส่วนภรรยาเป็นผู้หญิงอารมณ์ร้อนที่ก็ไม่รู้ไปเรียนวิชาต่อสู้มาจากไหนถึงสามารถต่อยตีสามีจนเขากลัวได้ตลอดเวลายามที่เขากลับบ้านดึก เรื่องเกิดขึ้นเมื่อสามีไปพบกับหญิงสาวที่ทำงานอยู่ในโรงงานเดียวกันและแอบคบชู้ ทั้งคู่แอบนัดเจอกันในโรงเพาะชำ แอบนั่งรถไฟสายดึกเพื่อเข้าไปในโรงแรมต่างเมือง เรื่องทั้งหมดดำเนินไปจนกระทั่งฝ่ายภรรยาและสามีของแต่ละฝ่ายรู้ความจริง

หนังเรื่องที่สามของจางซึงอูเรื่องนี้เป็นหนึ่งในหนังเปิดยุค 90 ที่เป็นช่วงเวลาเปิดกว้างของวงการหนังเกาหลีเมื่อเทียบการยุค 80 ที่ผ่านมา หนังรักต้องห้ามที่ดูเหมือนจะธรรมดาเรื่องนี้ โดดเด่นด้วยท่าทีการเล่ากึ่งจริงจังกึ่งเสียดสี หนังแสดงให้เห็นสภาพสังคมและเศรษฐกิจในยุค 90 ของเกาหลี เริ่มต้นด้วยเรื่องของชู้รัก ก่อนที่ค่อยๆ ขยับขยายเล่าเรื่องราวของคนที่รายล้อมพวกเขาในท่าทีเข้าอกเข้าใจและมองตัวละครเป็นมนุษย์อย่างงดงาม

ดูหนังเต็มเรื่องที่ : 


Declaration of Idiot (1983, Lee Jang-ho)

“ผมจะไม่อ้างว่าตัวเองได้สร้างหนังเรื่องนี้ขึ้นมา ระบบการเผด็จการตอนนั้นต่างหากที่ทำให้มันเกิดขึ้น” ลีจังโฮ ผู้กำกับ

ขอทานผู้หนึ่งพบกับสาวสวยที่เขาคิดว่าเป็นเด็กนักศึกษา เขาติดตามเธอไปกับคนขับรถแท็กซี่ผู้หนึ่ง ก่อนที่จะพบว่าเธอเป็นโสเภณีที่อาศัยอยู่ในสลัมใจกลางโซล เรื่องราวความสัมพันธ์ของคนสามคนได้เริ่มต้นขึ้น

หนังนำเสนอปัญหาเศรษฐกิจของเกาหลีในช่วง 80 ด้วยท่าทีเป็นหนังตลกทดลองผสมกับหนังเงียบ ใช้เสียงประกอบประหนึ่งเหมือนเราอยู่ในวิดีโอเกมส์อาร์เคด กับบทบรรยายของเด็กชายคนหนึ่งที่เล่าเรื่องทั้งหมดราวกับมันเป็นนิทานก่อนนอน มีเรื่องเล่าคือ ก่อนหน้าที่จะสร้างหนังเรื่องนี้ผู้กำกับลีจังโฮ เคยสร้างหนัง Social Realism เต็มสูบมาก่อนสองสามเรื่อง บทหนังเรื่องต่อไปของเขา (ซึ่งก็คือเรื่องนี้) ถูกเซ็นเซอร์โดยรัฐบาล และแม้ว่าเขาจะแก้จนรัฐพอใจแต่ก็พบว่า เขาจำเป็นที่จะต้องแก้ชื่อเรื่อง แก้นู่น แก้นี่สารพัดอย่าง ผู้กำกับหนุ่มโกรธเกรี้ยวต่อระบบและอยากที่จะหยุดทำหนัง เขาใส่ทุกอย่างที่เขาคิดว่ามันเป็นส่วนประกอบของ “หนังชั้นเลว” ลงไป แต่ก็นั่นแหละ Declaration of Idiot กลายเป็นหนังคลาสสิคที่กลายเป็นนิยามของ “Postmodern Korean Cinema” ในเวลาต่อมา

ดูหนังเต็มเรื่องที่ : 


Gagman (1988, Lee Myung-se)

นักแสดงตลกผู้ทำงานในบาร์กระจอกแห่งหนึ่งมีความฝันอยากเป็นผู้กำกับหนัง เขามีเพื่อนสนิทเป็นช่างตัดผมที่เคยสัญญาว่าจะให้เขาเป็นนักแสดงในหนังที่เขาทำ วันหนึ่งเขาพบกับหญิงผู้หนึ่งในโรงหนังโดยบังเอิญก่อนที่จะพบว่าเธอกำลังหาที่หลบซ่อนจากการตามล่าของมาเฟียอยู่ ทั้งสามตัดสินใจร่วมกันสร้างหนังโดยหาเงินทุนด้วยการปล้นธนาคาร! และเรื่องวุ่นวายทั้งหมดก็เริ่มต้นขึ้น

หนังตลกเรื่องนี้ถูกพูดถึงในฐานะ หนึ่งในตัวอย่างของ “New Korean Cinema” ตัวละครถูกนำเสนอเหมือนตัวการ์ตูน แปลกแยกต่อสังคม ผู้ชายที่อ่อนแอและล้มเหลวในการใช้ชีวิต หนังเรื่องนี้นำเสนอความอัดอั้นตันใจของวัยรุ่นในยุคสมัยนั้นได้เป็นอย่างดี

ดูหนังเต็มเรื่องที่ : 


Insect Woman (1972, Kim Ki-young)

“รู้ไหมว่ามีแมลงตัวเมียที่กินตัวผู้เข้าไปหลังจากมันร่วมเพศกันเสร็จ เหมือนคนเลย ผู้หญิงก็กินผู้ชายเหมือนกัน นี่แหละสาเหตุที่ผู้ชายอายุขัยสั้นกว่าผู้หญิง!”

เด็กนักเรียนหญิงผู้หนึ่งถูกข่มขืนโดยอาจารย์ชายผู้กำลังมีปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เธอเรียกร้องให้เขารับเธอเป็นเมียน้อย คำขอได้รับการยินยอมจากเมียหลวง โดยมีข้อแม้ว่าเธอต้องรักษาอาการกามตายด้านของสามีให้หาย ศึกชิงความเป็นนางพญาแมลงได้เริ่มต้นขึ้น

เราคงไม่สามารถพูดถึงหนังเกาหลีคลาสสิคได้โดยไม่พูดถึงคิมคียัง เจ้าของผลงาน The Housemaid อันลือลั่น ในขณะที่ The Housemaid มีเซนซ์ในการ “บุกรุกและคุกคาม” จากสาวใช้ และฝั่งเจ้านายไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากยอมทำตามเกมของเธอ มาในเรื่องนี้ ตัวละครเมียหลวงกลายเป็นผู้คุมเกมแทนที่จะเป็นผู้ตามแบบเรื่องก่อน เมื่อเวลาผ่านไปเหล่าชนชั้นกลางถูกปลุกสัญชาตญาณดิบ บ้านหรูใจกลางเมืองก็มีสภาพไม่ต่างจากป่าดงดิบไปโดยปริยาย และในขณะเดียวกันตัวหนังก็เริ่มเบนเข็มไปสู่ความเหนือจริงมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน

บองจุนโฮได้รับแรงบันดาลใจจากคิมคียังอย่างมหาศาลเช่นเดียวกับผู้กำกับเกาหลีใต้หลายคน Insect Woman เป็นเรื่องที่ดีในการจะทำความรู้จักกับปรมาจารย์ภาพยนตร์จากเกาหลีผู้นี้

ดูหนังเต็มเรื่องที่ :


People in the Slum (1982, Bae Chang-ho)

หญิงลูกติดผู้หนึ่งเปิดร้านโชห่วยเล็กๆ ในสลัมกับสามีใหม่ผู้ชอบใช้ความรุนแรง บางครั้งเธอถูกเรียกว่า “ถุงมือดำ” เพราะเธอชอบใส่ถุงมือสีดำที่มือข้างขวาโดยไม่มีใครทราบสาเหตุ ลูกชายที่ไม่รู้ว่าพ่อตัวเองเป็นใครกำลังเติบโตและติดนิสัยชอบขโมยของจนถูกจับได้อยู่บ่อยๆ วันหนึ่งชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นและอดีตทั้งหมดก็เริ่มเปิดเผยตัวมันออกมา

สร้างจากนิยายขายดีในตอนนั้นของ อีดงชอล เช่นเดียวกับหนังหลายเรื่องในตอนนั้น บทถูกตีกลับโดยรัฐบาลห้าครั้ง และโดนสั่งให้แก้ไขกว่าหกสิบจุด ไม่ว่าจะเป็นชื่อเรื่อง ท่าทีของตำรวจที่มีต่อผู้คนในสลัม รวมไปถึงฉากตบตีระหว่างสามีกับภรรยาที่รัฐไม่ต้องการให้สามีดึงผมภรรยาระหว่างการต่อสู้!!?? แต่อย่างไรก็ตามผู้กำกับ แบจางโฮ ตัดสินใจไม่แก้ไขตามที่รัฐบาลต้องการ ในจุดที่เขาเห็นว่ามันไม่สมเหตุสมผล เขามุ่งหน้าถ่ายทำเลยโดยไม่รอคำอนุมัติจากรัฐในแบบของเขา ในความยากลำบากและการต่อสู้ตั้งแต่เริ่มไปจนถึงจบ (เขาต้องตัดใหม่กว่าห้าสิบคัทส่งไปให้รัฐดูจนกว่าพวกเขาจะพอใจให้ฉาย) หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างสูง และทำให้แบกลายเป็นหนึ่งในผู้กำกับเกาหลีที่โด่งดังที่ในยุค 80

ดูหนังเต็มเรื่องที่ : 


Transgression (1974, Kim Ki-young)

ณ วัดบนภูเขาอันห่างไกล เด็กกำพร้าผู้หนึ่งได้รับการช่วยเหลือจากช่วงเวลาอดอยากระหว่างสงครามจนมาบวชเป็นพระฝึกหัดที่วัดแห่งนี้ เมื่อเวลาผ่านไปเขาได้พบกับแม่ชีที่อยู่ในวัดใกล้ๆ และผูกสัมพันธ์กับชีนางหนึ่งที่อายุไล่เลี่ยกัน ในขณะที่เจ้าอาวาสวัดกำลังจะตายจากไปและเหล่าพระกำลังวุ่นวายกับการเลือกว่าใครจะเป็นผู้สืบทอดอารามแห่งนี้ต่อไป

อีกหนึ่งงานจากคิมคียังที่ไม่ค่อยถูกพูดถึงมากนัก หนังเล่าเรื่องราวการเติบโตของพระวัยรุ่นผู้หนึ่ง ความขัดแย้งระหว่างวัย การตื่นรู้เรื่องเพศของเด็กชายผู้หนึ่งที่ถูกกดทับเอาไว้จนระเบิดออกมา หนังเรื่องนี้ค่อนข้างจะผ่าเหล่าผ่ากอจากเรื่องอื่นๆ ของคิมคียังไปซะหน่อย แต่ร่องรอยและลายเซ็นต์ของคิมก็ยังคงอยู่อย่างชัดเจน และหนังที่พูดถึงพุทธศาสนาควบคู่ไปกับเซ็กซ์ก็ไม่ได้มีให้เห็นกันบ่อยๆ ความน่าสนใจอีกอย่างของมันคือ Trangression เป็นหนังที่พูดถึงพุทธศาสนาในเชิงปฎิบัติและหลักคำสอนอย่างจริงจัง มันเต็มไปด้วยข้อถกเถียงและคำถามใหญ่โต เล่าเรื่องด้วยความหนักแน่นและมั่นใจ ซึ่งก็น่าเสียดายที่มันไม่ถูกพูดถึงมากกว่านี้

ดูหนังเต็มเรื่องที่ :


Jagko (1980, Im Kwon-taek)

คล้ายกับในหลายๆ ประเทศในช่วงสงครามเย็น หนังต่อต้านคอมมิวนิสต์เคยเป็นหนังในกระแสหลักของเกาหลีในช่วงนั้น หนังฝ่ายซ้ายถูกจับตามองโดยรัฐบาล ในขณะนั้นผู้กำกับอิมควอนเทคลูกชายของนักเคลื่อนไหวฝั่งเกาหลีเหนือในช่วงสงครามเกาหลี จำเป็นที่จะต้องทำหนังต่อต้านคอมมิวนิสต์เพื่อป้องกันตัวเอง จนกระทั่งยุค 70 สถานการณ์ต่างๆ เริ่มคลี่คลายมากยิ่งขึ้น เขากลายเป็นหนึ่งในผู้กำกับที่เป็นหัวแรงหลักในการทำหนังที่มองสถานการณ์ในอดีตในมุมมองใหม่ และสร้างหนังเรื่องนี้ขึ้นมา

Jagko เล่าเรื่องกว่าสามสิบปีของชายสองคนที่อยู่ขั้วตรงข้ามทางการเมืองกัน คนหนึ่งเป็นตำรวจของฝั่งเกาหลีใต้ที่ได้รับการสนับสนุนจากอเมริกา อีกฝ่ายเป็นนักต่อสู้ฝั่งคอมมิวนิสต์ เรื่องราวของเขาทั้งสองเกี่ยวข้องกันด้วยสงคราม ตั้งแต่พวกเขายังเชื่อมั่นในอุดมการณ์ทางการเมือง จนกระทั่งกลายเป็นสิ่งชำรุดทางประวัติศาสตร์ หนังเริ่มเรื่องจากการพบกันของทั้งสองในสถานพักฟื้นสำหรับคนชราที่กำลังจะตายและไร้ญาติมิตร ก่อนที่จะค่อยๆ ย้อนกลับไปเล่าเรื่องในอดีต ในขณะที่ฝ่ายหนึ่งพยายามหลงเหลือทุกอย่างที่ผ่านพ้นมา อีกคนยังคงมีชีวิตเพื่อล้างแค้นมาตลอดสามสิบปี

หนังได้รับการฉายที่เบอร์ลินในโปรแกรมคลาสสิคเมื่อปี 2019

ดูหนังเต็มเรื่องที่ : 

Related NEWS

LATEST NEWS