สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดนับตั้งแต่เมื่อปี 2020 ได้สร้างผลกระทบต่อธุรกิจโรงหนังอย่างไม่อ้อมค้อม วัดได้จากการที่หนังใหม่ของสตูดิโอเลื่อนหนีไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ จนนำมาซึ่งรายได้ของการขายตั๋วที่ลดลงจนบางโรงหนังเลือกที่จะไม่ฉายหนังก็มี เช่น Century The Movie Plaza จนอะไรๆ ก็เริ่มจะเข้าที่เข้าทาง หนังใหม่เริ่มทำเงินเยอะก็เกิดการระบาดรอบ 2 ซึ่งคราวนี้กระทบหนังกว่าเดิมเพราะเดือน ม.ค. มีหนังใหม่เข้าฉายแค่ 3 เรื่องเท่านั้น แน่นอนว่าภาวะเช่นนี้โรงหนังที่โดนผลกระทบไปเต็มๆ ก่อนใครเพื่อนก็คือโรงหนังทางเลือก เช่น ‘ลิโด้ คอนเน็คท์’ และต้องมีการปรับตัวอย่างชัดเจนในช่วงเวลาอันใกล้นี้
สิรินทรา มงคลนาวิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลิโด้ คอนเน็คท์ จำกัด เปิดเผยว่า “ของเราได้รับผลกระทบเยอะนะคะ ตั้งแต่การระบาดรอบที่แล้วที่ต้องเว้นระยะห่าง มันทำให้คนรู้สึกไม่ปลอดภัย ช่วงนั้นคนดูก็เลือกเสพคอนเทนต์สตรีมมิงอยู่ที่บ้านกัน ประกอบกับแต่ละผู้ให้บริการก็มีคอนเทนต์ออกมามากมายหลากหลายด้วย มันเลยเป็นการปรับพฤติกรรมคนดูค่อนข้างเยอะ กว่าจะกลับมาได้ก็คือช่วง มิ.ย. ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ค่อนข้างนาน หนังใหม่ก็ไม่ค่อยมี ซึ่งตรงนี้อาจไม่ได้กระทบกับ ลิโด้ คอนเน็คท์ โดยตรง เพราะเราเน้นไปที่หนังทางเลือกมากกว่า”
แม้จะฉายหนังเพียงจอเดียว แต่หลายรอบก็ไม่มีคนดูแล้ว ทำให้สิ่งที่ ลิโด้ คอนเน็คท์ ต้องเร่งมือคือปรับกลยุทธ์การฉายหนังให้เร็วที่สุด อันดับแรกคือเปลี่ยนบทบาทของโรงหนังเสียใหม่ ดังที่แฟนเพจของ ลิโด้ คอนเน็คท์ พยายามเน้นให้เห็นว่าโรงหนังสามารถปรับเปลี่ยนเพื่อประโยชน์หลากหลาย กระตุ้นให้เกิดการเช่าพื้นที่มากขึ้น และนอกจากนี้คือการลดความถี่ในการฉายหนังตามปกติลง และเพิ่มกิจกรรมแทน
“ถ้าเรายังวางบทบาทเป็นโรงหนังปกติ คนดูหนังก็จะน้อยต่อไปแบบนี้ เพราะฉะนั้นนับจากนี้เราคงจะลดความถี่ในการฉายหนังลง อาจจะเหลือแค่เป็นบางวันเท่านั้น แต่จะพยายามหากิจกรรมที่ทำให้การดูหนังมันพิเศษขึ้นมา เช่นการพูดคุย การให้ความรู้ในแง่มุมต่างๆ เหมือนที่เราเคยทำกับ Documentary Club หรือทำกับสารคดี ‘ติดถ้ำ’ ของ TPBS คนก็ให้ความสนใจ พยายามเพิ่มประสบการณ์พิเศษเข้าไปให้มากที่สุด หรืออย่างที่เราอยากจะสร้างคือการใช้สถานที่เพื่อรองรับหนังนักศึกษา เพราะทุกวันนี้มีหนังดีๆ เยอะ แต่โอกาสเผยแพร่ยังน้อย” สิรินทรากล่าว