ชม ‘เสียงฟ้าเดือนตุลา’ หรือ October Rumbles หนังสั้นเรื่องล่าสุดของ อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล ที่ถ่ายทำในเชียงใหม่ ในช่วงที่เขากลับมาบ้านช่วงโควิดและใคร่ครวญถึงสรรพสิ่งรอบข้าง โดยเป็นการร่วมมือของ The Polygon และนิทรรศการ Third Realm
หนังเปิดให้ชมฟรีถึงวันที่ 12 พ.ย. 63 เท่านั้น คลิกชมที่
นอกจากนี้ อภิชาติพงศ์ยังเขียนถึงแรงบันดาลใจจากหน้าฝนและเหตุการณ์เดือนตุลาคมเอาไว้ ซึ่งเปรียบเสมือนบทบันทึกของเขาในโมงยามที่เกิดเรื่องมากมายขึ้นที่ไทย ณ ตอนนี้ด้วย
(แปลจาก https://thepolygon.ca/news/apichatpong-weerasethakul-october-rumbles)
สายฝนและการฟื้นฟู
เป็นเวลาสองปีที่ผมจดจ่ออยู่ในโคลอมเบีย สถานที่ถ่ายหนังเรื่องล่าสุด ผมจมอยู่กับวัฒนธรรมใหม่ ภาษาใหม่ และความทรงจำของคนอื่น แล้วโควิดก็พาผมกลับมาที่ประเทศไทย ผมต้องอยู่ที่นี่แล้วชีวิตก็เปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิงในทุกด้าน
ผมติดอยู่ที่นี่และต้องซึมซับสถานการณ์รอบด้าน ทั้งยังเดินหน้าในฐานะคนทำหนังต่อไป ในเวลาเดียวกัน ก็เกิดไฟป่าครั้งใหญ่บนดอยทำให้อากาศที่บ้านเต็มไปด้วยฝุ่นควัน มองออกไปก็เห็นเปลวเพลิงอยู่ด้านนอก จนต้องสวมหน้ากากอนามัยนอน ซึ่งโควิดทำให้ผมต้องอยู่ในสภาพเช่นนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เมื่อหมอกควันจางหายไป ชีวิตใหม่ก็ถือกำเนิดขึ้นอีกครั้ง ผมเริ่มออกเดินเข้าไปสำรวจป่าบนดอย เพื่อสำรวจเศษซากเพลิงไหม้เหล่านั้น จากนั้นฤดูฝนก็เริ่มขึ้นในอีกสองเดือนต่อมา และตอไม้ที่ถูกทำลายก็แตกยอดออกมาใหม่เต็มไปหมด จึงพบวงจรความงดงามและความอุดมสมบูรณ์ของชีวิตรอบๆ บ้านซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยสังเกตมาก่อน
เมื่อโควิดมา ผมโหยหาการพูดคุยกับมิตรสหายรวมถึงนักแสดงของผม คิดถึงการโอบกอดใครบางคน แต่หลังจากฝนมาและได้เห็นสิ่งมีชีวิตที่นี่ ผมก็ตอบตัวเองว่าแท้จริงแล้วไม่ได้ต้องการสิ่งเหล่านั้น ผมเพียงพอแล้วสำหรับการอยู่ที่นี่ ผมพอใจแล้ว นั่นคือเหตุผลที่ผมทำหนังสั้นหลายเรื่องรวมถึงเรื่องนี้ด้วย ทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับหน้าฝนนี้ หนังโคลอมเบียของผมจบลงด้วยสายฝนอันยาวนาน ผมรู้สึกถึงความสัมพันธ์กัน … และมันถูกเก็บงำเอาไว้
เสรีภาพและการเมือง
วิถีชีวิตปกติเรามักเกิดความไม่สบายใจ เราต้องการเน็ตฟลิกซ์ เราต้องการภาพยนตร์ เราต้องการเครื่องมือเพื่อลืมเรื่องตัวเอง ปกติแล้วการทำหนังของผมคือการสำรวจตัวเองเพื่อค้นหาความทรงจำและสิ่งอื่น แต่ตอนนี้ผมว่ามันอาจไม่ใช่ทางที่ดีนัก การสำรวจความทรงจำของคนอื่นเป็นวิธีการกระจายความคิดของคุณ และกระตุ้นให้เกิดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ในประเทศไทยตอนนี้มีความไม่สงบทางการเมืองครั้งใหญ่เกิดขึ้นอีกครั้ง และทำให้ตระหนักได้ว่าเราหลงลืม “ประชาชน” ได้ง่ายเพียงใด เราหลงเข้ามาในวังวนเดิมได้อย่างไร ทำไมทหารถึงเข้ามามีบทบาททางการเมืองและควบคุมเรา
ในตอนแรกผมใคร่ครวญถึงความทุกข์ยากของตัวเอง ที่ไม่สามารถแสดงเสรีภาพในประเทศของตัวเอง รวมถึงบทบาทของทหารหรือสถาบันกษัตริย์หรืออะไรก็ตาม แต่แล้วคุณก็รู้ว่ายังมีอีกหลายคนที่ทุกข์ทรมานในช่วงโควิดเช่นกัน และคุณเห็นช่องว่างขนาดใหญ่ของความเท่าเทียม จนเกิดพลังการต่อสู้ของประชาชน ทั้งในครั้งนี้และที่ผ่านมาหลายทศวรรษ
พุทธศาสนาในช่วงเวลาวิกฤต
ทุกวันนี้มีคนจำนวนมากอยู่กับความกลัว ความโกรธ และความเกลียดชัง คนเหล่านี้ยึดติดกับความคิดของตัวเอง รวมไปถึงยึดติดความเป็นชาติ มากเกินไป พวกเขาเชื่อว่าตนเป็นศูนย์กลางจักรวาลและใช้ชีวิตอย่างฝืนธรรมชาติ ในพระพุทธศาสนาทุกอย่างเชื่อมโยงกัน คุณไม่ใช่ศูนย์กลางแต่เป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลนี้ สัมพันธ์กับคนรอบข้างและกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน ดังนั้นจึงไม่มีกำแพงที่จะแยก “นี่พวกเขา นี่พวกเรา” แต่เราไม่สามารถดื่มด่ำไปกับทุกอย่างได้
เราอาจไม่สามารถมีความสุขกับทุกสิ่งรอบข้างได้ แต่ทุกประสบการณ์ล้วนมีความน่าสนใจของมัน แม้แต่ความซ้ำซากอย่าง สายลม สายฝน จังหวะของเสียงค้อนกระทบกับคอนกรีต คุณสามารถเป็นส่วนหนึ่งกับสิ่งเหล่านี้เพื่อสร้างจังหวะของชีวิตคุณเอง สอดคล้องกับจังหวะของชีวิตคนรอบข้าง แล้วจะรู้ว่าคุณกำลังไหลไปด้วยกัน เราอยู่ในสายน้ำเดียวกัน สายน้ำแห่งกาลเวลา สายน้ำแห่งร่างกายและจิตสำนึกของประวัติศาสตร์