Home Film News ล้านหยวนเรื่องแรกของจีนหลังโควิด คือหนังเด็กอุยกูร์

ล้านหยวนเรื่องแรกของจีนหลังโควิด คือหนังเด็กอุยกูร์

ล้านหยวนเรื่องแรกของจีนหลังโควิด คือหนังเด็กอุยกูร์

179 วันที่โควิดทำให้ต้องปิดโรงหนังในจีน จนประเทศที่ทำรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศมากเป็นอันดับ 2 ของโลกสั่นสะเทือนวงการหนังไปทั่วโลกทั้งทางตรงและทางอ้อม จนเมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา โรงหนังจีนกลับมาเปิดอีกครั้งในพื้นที่ที่ความเสี่ยงต่ำ และหนังใหม่ที่ทำรายได้ดีที่สุดก็คือ A First Farewell หนังน่ารักๆ ซึ่งเล่าเรื่องการจากลาของเด็กชาวอุยกูร์ ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์

A First Farewell ขายคูปองส่วนลดหมดตั้งแต่คืนวันที่ 19 ก.ค. ก่อนโรงหนังจะเปิดให้บริการเสียอีก และทำเงินวันแรกไปถึง 1.5 ล้านหยวนเลยทีเดียว ซึ่งด้วยตัวละครชาวอุยกูร์ที่มีภาพลักษณ์แตกต่างจากพระนางในหนังจีนโดยทั่วไปจึงเป็นเรื่องน่าสนใจที่มันสามารถทำเงินเปิดศักราชใหม่ให้โรงหนังจีนได้เช่นนี้

หนังกำกับโดย ลินา หวัง ซึ่งเธอเกิดและเติบโตในซินเจียง เธอจึงรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับชาวอุยกูร์อยู่แล้ว นี่จึงเป็นสาเหตุที่ A First Farewell ปฏิบัติกับตัวละครอุยกูร์อย่างเป็นปกติมนุษย์จนคว้ารางวัล Crystal Bear จาก KPlus Generation of the Berlinare และ Future of Asia จาก Tokyo Festival มาแล้ว

หนังเล่าเรื่องของ อิซา เด็กจากครอบครัวเลี้ยงแพะในเขตปกครองพิเศษซินเจียงอุยกูร์ ที่เขาต้องอยู่ในช่วงเวลาแห่งการลาจากกับคุณแม่หูหนวกซึ่งกำลังจะถูกส่งไปอยู่ในที่ที่ดูแลเธอได้ดีกว่า และเพื่อนรักอย่าง กัลบินูร์ ผู้ที่ผลการเรียนย่ำแย่จนต้องถูกส่งไปยังโรงเรียนซึ่งห่างไกลออกไป โดยผกก.หวังหยิบเรื่องราวมาจากชีวิตจริงของ อิซา ยาซัน หนูน้อยผู้รับบทอิซาที่เธอไปเจอโดยบังเอิญ

เขตปกครองพิเศษซินเจียงอุยกูร์ เป็นดินแดนที่สวยงามด้วยพืชพรรณธรรมชาติและความเวิ้งว้างสุดลูกหูลูกตาของทะเลทรายโกบี นั่นทำให้วัยเยาว์ของหวังได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติไม่ต่างจากเด็กซินเจียงคนอื่น การที่เธอได้พบกับอิซามันทำให้ความทรงจำทั้งหลายได้กลับมามีลมหายใจอีกครั้งหนึ่ง “เราชาวซินเจียงจะมีประสบการณ์ร่วมกัน เราได้ใกล้ชิดธรรมชาติ ได้มีเพื่อนเล่นที่สนิทกัน จากนั้นเราก็ต้องจากลาเพื่อเติบโตไปอีกขั้น หนังเรื่องนี้คือความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้สึกแสนงดงามในช่วงนั้น”

ความเซอร์ไพรซ์คือ A First Farewell เป็นหนังที่เรียบง่ายงดงาม ไม่ได้หวือหวาเร้าใจ เหมือนหนังฮิตในจีนอีกมากมาย ซึ่งหวังมองว่านี่เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับโลกหลังโควิด

“ปีนี้พิเศษสำหรับทุกคนบนโลกใบนี้ ฉันเห็นผู้คนถูกแยกออกจากสังคมมามากมาย ฉันหวังว่าหนังเรื่องนี้จะมอบความอบอุ่นใจให้ใครหลายคน

“ฉันเชื่อว่าหนังดีจะช่วยเยียวยาจิตวิญญาณของเรา ตราบใดที่เรื่องมันสัมผัสหัวใจ ฉันก็ยังยืนยันจะทำหนังของพลเมืองชั้นสองในประเทศจีนต่อไป”

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here