The Dig ถึงคุณที่อยู่ในตอนนี้และอีกหลายร้อยปีข้างหน้า

(2021, Simon Stone)

ถึงพวกคุณที่กำลังอ่านงานเขียนชิ้นนี้ในปี 2021 และอีกหลายร้อยปีนับจากนี้

โดยเฉพาะพวกคุณที่อยู่ในอนาคตอันห่างไกล ในวันที่พวกคุณเจอข้อเขียนชิ้นนี้ บนโลกยังมีคำถามอยู่หรือเปล่าว่าคนเราจะเรียนประวัติศาสตร์ไปทำไม นักศึกษาภาควิชาประวัติศาสตร์และโบราณคดียังถูกถามอยู่ไหม ว่าเรียนจบไปแล้วต้องไปไล่ขุดดินหาของเก่าหรือเปล่า คงคงไม่ตลกเท่าไร หากมุกฝืดๆ แบบนี้มีอายุยืนยงอยู่ได้หลายร้อยปี แค่ในช่วงชีวิตผมมันก็เชยสุดๆ แล้ว

สิ่งที่ผมเขียนอยู่นี้ไม่ได้มีคุณค่าทางวรรณกรรมมากมายนัก ณ ขณะที่ผมมีชีวิตอยู่ แต่หากมันยังหลงเหลือไปถึงศตวรรษถัดไป มันอาจจะกลายเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชิ้นหนึ่งก็ได้ นี่คือการร่วมมือกันอย่างแปลกประหลาดของกาลเวลาและวิชาประวัติศาสตร์ สิ่งที่ดูเหมือนไม่มีความหมายในวันนี้กลับมีความหมายที่ต่างออกไปในอีกช่วงเวลาหนึ่ง

ในปี 1938 ก่อนที่สงครามโลกครั้งที่สองจะปะทุขึ้น นักขุดซากโบราณคดีมือดีผู้ไม่มีใบปริญญารับรองนามว่าบาซิล บราวน์ เดินทางไปยังซัฟฟอล์ก ย่านชนบทเล็กๆ แห่งหนึ่งในอังกฤษตามคำชวนของเศรษฐีนีหม้าย อีดิธ พริตตี้ เพื่อขุดเนินดินรกร้างที่เธอและสามีซื้อเอาไว้นานแล้ว ตามคำกล่าวอ้างของคุณนายพริตตี้ เธอและสามีเชื่อว่ามีบางอย่างที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์หลับไหลอยู่ใต้ที่ดินแปลงนี้ บราวน์เองก็เชื่อตามนั้น แต่ความเชี่ยวชาญของเขาบอกว่าคงไม่เหลืออะไรมาก ด้วยเหตุผลใดไม่อาจทราบ บราวน์เชื่อมั่นในตัวเธอถึงขนาดยอมปฏิเสธงานขุดค้นซากอารยธรรมโรมันจากพิพิธภัณฑ์ใหญ่เพื่อรับงานของเธอ ก่อนที่เขาจะพบซากเรือที่บ่งชี้ได้ว่าเนินดินแห่งนี้เป็นสุสานของกษัตริย์ ไม่ใช่หลุมศพคนเถื่อนตามที่คาด ทว่าสงครามโลกใกล้เข้ามาทุกที ทีมนักวิจัยของพิพิธภัณฑ์บริติชจึงเข้ามาแทรกแซงการขุดค้นด้วยเหตุผลที่ว่า เมื่อสงครามเริ่มต้น การค้นคว้าวิจัยใดๆ จะถูกระงับลงทันที และสมบัติของชาติที่อยู่ใต้เนินดินอาจต้องหลับใหลต่อไปอีกหลายสิบปี

นี่คือเรื่องราวของ The Dig ภาพยนตร์ดัดแปลงจากนิยายชื่อเดียวกันของจอห์น เพรสตัน ที่ตีพิมพ์ในปี 2007 อิงจากเรื่องราวการค้นพบสุสานใต้เนินดินซัตตันฮู โบราณสถานที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในเกาะอังกฤษที่ถูกค้นพบเพียงไม่นานก่อนสงครามโลกครั้งที่สองจะเริ่มต้น คำถามใหญ่ในเรื่องราวนี้คือ อะไรกันที่ทำให้นักโบราณคดีอย่างคุณนายพริตตี้ บราวน์ และทีมขุดค้นจากพิพิธภัณฑ์แห่งชาติทุ่มเททั้งเวลาและทรัพยากรไปมากมาย ทั้งๆ ที่มันอาจไม่มีความหมายใดๆ เลยต่อชัยชนะของชาติในเวลานั้น

ดูเหมือน “ชัยชนะ” ของแต่ละคนจะต่างออกไปเมื่อพวกเขาตระหนักได้ว่าวาระสุดท้ายของชีวิตอาจมาถึงไวกว่าที่คาด ในสารคดีรวมบทสัมภาษณ์นายทหารอังกฤษในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งของปีเตอร์ แจ็กสัน เรื่อง They Shall Not Grow Old (2018) นายทหารหลายคนให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงท้ายๆ ของสงคราม ทหารที่ไปรบแนวหน้าทั้งสองฝ่ายแทบไม่สนใจแล้วว่าใครจะชนะ พวกเขาต้องการให้มันจบลงโดยเร็วที่สุด สิ่งที่มีความหมายในฐานะทหารของพวกเขาคือการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ที่พิสูจน์ว่าไม่มีสิ่งใดคุ้มค่าพอจะก่อสงคราม แต่ดูเหมือนว่าโลกคงยังไม่เข้าใจมันมากพอ ไม่กี่ปีหลังจากที่พวกเขากลับบ้าน สงครามโลกครั้งที่สองก็เกิดขึ้น

บราวน์ตระหนักได้ถึงความไม่แน่นอนของชีวิตได้เมื่อจู่ๆ เนินดินที่เขาขุดไว้ก็ถล่มลงมาทับเขาจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ส่วนอาการป่วยจากโรคประจำตัวของคุณนายพริตตี้ก็ย่ำแย่ลงทุกขณะ รอรี่ ลูกพี่ลูกน้องของเธอที่อาจจะพอฝากให้ช่วยดูแลลูกชายได้ก็เพิ่งสมัครเข้ากองทัพอากาศ ยิ่งการขุดค้นดำเนินต่อไป หลักฐานที่ค้นพบก็ดูจะยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ คำถามที่อยู่ในใจของเธอก็ยิ่งเติบโต ทั้งหมดนี้จะมีความหมายอะไร ในเมื่อชีวิตของคนเราช่างแสนสั้น เธอเองอาจะไม่ได้มีชีวิตยืนยาวพอจะได้เห็นดอกผลของความพยายาม

ในฉากสำคัญของเรื่อง บราวน์ขุดพบเหรียญจากราชวงศ์เมโรแว็งเฌียง อันเป็นหลักฐานว่ากษัตริย์เจ้าของหลุมศพเป็นชาวแองโกล-แซ็กซอนผู้มีอารยธรรม ไม่ใช่คนเถื่อนตามที่คณะขุดค้นสันนิษฐานไว้ หลังจากที่ดีใจได้ไม่นาน คุณนายพริตตี้ก็ตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะยังไม่ยกสมบัติที่ขุดเจอในเนินดินให้กับใครเพื่อเป็นการประกาศต่อพิพิธภัณฑ์บริติชว่า การค้นพบครั้งนี้เป็นของเธอและบราวน์มากเกินกว่าที่พวกเขาจะสามารถเคลมไปเป็นสมบัติของชาติตามใจชอบ

“ฉันทำถูกแล้วหรือเปล่านะ” คุณนายพริตตี้ถามบราวน์ แน่นอนว่าเธอเองก็รู้สึกว่าสมบัตินั้นไม่ใช่ของเธอ “มันมีเรื่องราวของตัวเองครับคุณนาย เราขุดขึ้นมาเพราะเราอยากรู้เรื่องพวกนั้นเท่านั้นเอง” บราวน์ผู้ต่ำต้อยในสายตานักวิชาการตอบเรียบๆ คำถามนี้ถูกนำกลับมาถามใหม่อีกครั้งหลังจากที่คุณนายพริตตี้ถูกพายุคำถามจากนักข่าวว่าจะทำอย่างไรต่อไปกับบรรดาของที่ขุดขึ้นมาได้

“คุณนายครับ คนเราไม่ได้เกิดมาแล้วตายไปเฉยๆ อย่างที่พูดกัน เราเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของเรื่องราวที่จะถูกเล่าขานต่อไปเสมอ” บราวน์บอกกับเธอเช่นนั้น

The Dig จึงไม่ใช่เรื่องราวความสำเร็จของนักโบราณคดีกลุ่มหนึ่งที่ต้องต่อสู้กับเวลาที่มีอย่างจำกัด แต่เป็นการฝากร่องรอยของมนุษย์ลงบนเส้นทางประวัติศาสตร์อันแสนยาวไกล ประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้หมายถึงอดีตแต่ยังกินความถึงอนาคตข้างหน้า ผ่านข้าวของ บันทึก ภาพถ่ายหรือแม้แต่ร่องรอยการขุดลงไปในดิน

ในฉากเล็กๆ ฉากหนึ่ง เพ็กกี้ นักโบราณคดีสาวเดินเข้ามาในครัวบ้านพริตตี้และพบภาพที่รอรี่จัดเรียงเอาไว้เพื่อแสดงในวันแถลงข่าว ภาพเหล่านั้นคือภาพที่ถูกบันทึกเอาไว้ตลอดการขุดค้น ในชั้นหนึ่งมันคือหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่จะดำรงอยู่ต่อไป เธอร้องไห้ออกมาแบบเกินจะกลั้น เพราะเห็นว่าในอีกชั้นหนึ่ง มันคือคำสารภาพว่าเขารู้สึกอย่างไรกับเธอ ผ่านดวงตาและเลนส์กล้องของเขา ประวัติศาสตร์คือเรื่องเล่าของสิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้วอย่างยาวนาน แต่ในขณะเดียวกัน มันก็มีความหมายในฐานะชั่วเวลาพริบตาเดียวที่เปี่ยมไปด้วยความหมาย

จอห์น เพรสตัน นักเขียนนิยายต้นฉบับเปิดเผยว่าเขาเพิ่งมารู้ไม่กี่ปีก่อนหน้าที่จะลงมือเขียน The Dig ว่าเขาเป็นหลานชายของนักโบราณคดีหญิงที่มีส่วนร่วมในการขุดค้นที่ซัตตันฮู เสี้ยวเล็กๆ เสี้ยวหนึ่งนั้นส่งผลให้เกิดนิยายเรื่องนี้ในเกือบร้อยปีถัดมา

แม้ว่าจะเป็นการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ที่สั่นสะเทือนแวดวงวิชาการประวัติศาสตร์อังกฤษ สมบัติแห่งซัตตันฮูก็เพิ่งจะถูกนำออกมาแสดงต่อสาธารณชนเก้าปีหลังจากการเสียชีวิตของอีดิธ พริตตี้ ส่วนบาซิล บราวน์ เพิ่งจะได้เครดิตในฐานะผู้ร่วมค้นพบขุมสมบัติเมื่อปี 2009 ชื่อของเขาปรากฏอยู่เคียงข้างชื่อของคุณนายพริตตี้ในห้องจัดแสดงถาวรที่พิพิธภัณฑ์บริติช

ทุกเรื่องราวอันแสนยิ่งใหญ่ประกอบได้ด้วยคนตัวเล็กๆ มากมาย

เมื่อมองย้อนกลับไปในเวลาไม่นานจากจุดที่ผมเขียนงานชิ้นนี้ มีการต่อสู้ใหญ่น้อยมากมายที่ควรจะถูกประทับไว้บนหน้าประวัติศาสตร์เกิดขึ้นแทบไม่เว้นสัปดาห์ หลายคนได้รับความเจ็บปวดทั้งกายใจ หลายคนถูกพรากอิสรภาพไป มีคนจำนวนไม่น้อยตั้งคำถามว่าสิ่งที่เราทำลงไปนี้จะมีความหมายอะไร ภาวะทุกข์ทนที่พวกเราเป็นอยู่นี้จะจะเปลี่ยนแปลงไปในชั่วชีวิตของเราหรือไม่

แม้จะยังไม่มีทีท่าว่ามันจะประสบความสำเร็จอย่างงดงาม แต่ก็อาจพูดได้ว่าการต่อสู้นี้มีความหมายมากพอแล้วในช่วงนี้

ถึงคุณที่อยู่ห่างออกไปอีกหลายสิบหลายร้อยปีจากนี้ ผมคงไม่อาจรู้ได้แน่ชัดว่ามันประสบความสำเร็จอย่างงดงามหรือไม่ ระหว่างทางนี้จะมีใครทนทุกข์หรือตกหล่นสูญหายไปอีกหรือเปล่า

ได้โปรดอย่าลืมพวกเรา

ขอให้สิ่งที่เราทำลงไปมีความหมายกับคุณ


The Dig มีให้รับชมได้แล้วบน Netflix

สิทธิชัย เปลี่ยนทองดี
นักทำงานอดิเรก, เล่นบอร์ดเกม, ดูตลกแสตนด์อัพ, จัดพอดแคสต์บำบัด และดื่มเบียร์คนเดียว

LATEST REVIEWS