เอหิปัสสิโก (Come and See) : จาก “ขบถ” สู่ “ผีบุญธรรมกาย” องคาพยพที่สะเทือนความมั่นคงของรัฐอันนำไปสู่ “สังฆประหาร”

(2019, ณฐพล บุญประกอบ)

ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางสำนักข่าวเดอะอีสานเรคอร์ดได้เผยแพร่ซีรีส์ว่าด้วยผีบุญลาวที่ถูกปราบปรามโดยรัฐบาลสยาม แสดงให้เห็นว่าอำนาจศักดิ์สิทธิ์ท้องถิ่นที่ไม่ยอมอยู่ใต้อำนาจรัฐจะมีจุดจบอย่างไร เรื่องเหล่านี้ถูกรื้อฟื้นกลับมาเล่าใหม่อีกครั้ง จากซากของอดีตที่หายไปกว่าร้อยปี

แววตาและน้ำเสียงที่อดีตพระมโนอธิบายว่า พระธัมมชโยนั้นคิดว่าตนเองเป็น “ต้นธาตุต้นธรรม” ที่เป็นแหล่งกำเนิดของพระพุทธเจ้าต่างๆ นั้นมีน้ำเสียงที่ชี้ไปทิศทางว่า พระรูปนั้นอาจเอื้อมที่จะตั้งตนเป็นใหญ่อย่างไรในมหาวิหารแห่งนั้น

บางคนเคยเทียบพระธัมชโยกับทักษิณ ชินวัตร ตรงที่เป็นปีศาจร้ายที่มีศักยภาพที่จะครอบครองประเทศ หากทักษิณเป็นมิติทางการเมือง พระธัมมชโยก็เป็นมิติทางศาสนา ภาพที่เผยแพร่การไปวัดธรรมกายของทักษิณ ยิ่งไปสะกิดต่อมความหวาดระแวงให้คนที่เกลียดชังทั้งคู่มากขึ้นทบทวี

ทักษิณกลับประเทศไม่ได้แต่พยายามไปลงทุนอยู่ต่างประเทศ ส่วนธัมมชโยนั้นไม่ปรากฏในที่สาธารณะราวกับสาบสูญ ในมิติหนึ่งแล้ว คนที่อยู่หน้าสปอตไลท์และสำแดงตนเป็น “คุณครูไม่ใหญ่” ในรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยามาตลอด ไม่สามารถแสดงตัวได้ ก็ไม่ต่างอะไรกับการลี้ภัยออกนอกประเทศไปแล้ว

สารคดีเรื่องนี้ฉายภาพอาณาจักรของธรรมกายในอีกรูปแบบหนึ่ง เสียงดนตรีประกอบที่ทุ้มแน่นราวกับการสำแดงสถาปัตยกรรมแห่งจักรวรรดิในหนังสตาร์วอร์ส และไม่มีน้ำเสียงล้อเลียนแบบที่สื่อจำนวนมากทั้งตามขนบและโซเชียลพยายามใช้กัน มหาวิหาร มหาเจดีย์อันแสนยิ่งใหญ่สื่อถึงว่า space แห่งนี้สามารถโอบรับผู้มีศรัทธาเรือนแสน เรือนล้าน นี่ถ้าสารคดีเสร็จช้ากว่านี้ เราคงได้เห็นจอ LED ของคนมหาศาลที่รายล้อมมหาเจดีย์ที่ยิ่งใหญ่ราวกับ CG ในหนังไซไฟ

การประดับประดาพื้นที่ด้วยธงทิว สีสัน และลักษณะการเดินคล้ายกับสวนสนามของเหล่าทหาร สื่อถึงความเป็นกองทัพธรรมอันยิ่งใหญ่เกรียงไกร ในด้านหนึ่งแล้ว มันแสดงให้เห็นถึงพลานุภาพและศักยภาพของความจักรพรรดิราชที่ครอบครองอาณาจักรพุทธที่ทรงพลัง 

ความทะเยอทะยานของคนและทีมงานนี้ ได้ให้กำเนิดระบบและเครือข่ายลูกศิษย์อันเปี่ยมศรัทธาที่ท้าทายกับอำนาจของสังคมไทยอย่างบางทีที่พวกเขาก็อาจไม่รู้ตัว หรือรู้ว่าทำอะไรอยู่ก็ตาม อย่างไรก็ดีพวกเขาอาจจะคิดว่า ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ทุกอย่างในโลกนี้น่าจะต่อรองได้

บทสรุปของสารคดีเฉลยแล้วว่า พวกเขาคิดผิด

ฉากหนึ่งที่เก็บภาพนกยูง (ซึ่งน่าจะเป็นสัญลักษณ์ของแม่ชีจันทร์ ขนนกยูงด้วย) ยาตราขึ้นบันไดที่ฉากหลังเป็นสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ มันขับให้นกยูงเด่นชัดขึ้นมา แต่แวบหนึ่งแล้ว มันให้อารมณ์ที่เหงาและเปล่าเปลี่ยว

หากทักษิณเป็นสัญลักษณ์ของทุนนิยมสามานย์ ธรรมกายก็หนีกันไม่มาก บุญนิยมแบบที่สันติอโศกสมาทาน นั้นตรงกันข้ามการสั่งสมบุญของสายนี้ ไม่แน่ใจว่ามีใครเรียกว่าเป็น “บุญนิยมสามานย์” หรือยัง

เอาเข้าจริงแล้ว คำสอนเรื่องความเที่ยงแท้ ตัวตน และลักษณะอันจับต้องได้ในคำสอนของธรรมกายที่ถูกโจมตี มันไม่ได้อยู่ๆ ก็เกิดขึ้น เรื่องเล่าและปฏิบัติการเหล่านี้ล้วนปรากฏอยู่ในความเชื่อทางศาสนาแบบชาวบ้าน คำอธิษฐานการเข้าถึงนิพพานของผู้เฒ่าผู้แก่ บางทีอาจเป็นเพียงเมืองนิพพานที่เป็นเมืองแก้วเมืองสวรรค์แบบที่ธรรมกายพยายามทำมันให้เป็นจริง ผ่านคลิปที่ดีไซน์ไตรภูมิด้วย Computer graphic ที่จับต้องได้

เรื่องเล่าข้ามภพข้ามชาติ ปาฏิหาริย์ของวัด ก็อยู่ในระนาบเดียวกับฤาษีลิงดำ หลวงพ่อจรัญ ท.เลียงพิบูลย์ เพียงแต่ว่า เรื่องเหล่านี้ถูกทำให้ร่วมสมัย และเสกสร้างจักรวาลผ่านชุดความรู้ต่างๆ โรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาก็คือหนึ่งในนั้น

แต่สิ่งหนึ่งที่ได้เชื่อมร้อยนามธรรมของเรื่องเล่าและการปฏิบัติธรรมที่ผ่านมา มาสำเร็จได้ด้วยกลไก เครือข่ายลูกศิษย์ที่เป็นระบบ โดยอาศัยหลักการตลาดสมัยใหม่เข้าช่วย ทำให้ลูกศิษย์ที่เข้ามา ไม่ใช่ปัจเจกชนในสังคมสมัยใหม่ที่เดินเข้าวัดโดยไม่มีใครรู้จัก แต่ส่วนใหญ่มากับเครือข่าย ญาติพี่น้อง กลุ่มกัลยาณมิตรที่สานสัมพันธ์กันอยู่นอกวัด

หากการสั่งสมทุนในระบบทุนนิยมนั้นเป็นไปเพื่อการแสวงกำไรและต่อทุนไป ก็มีข้อจำกัดคือการยุติลงในโลกนี้ แต่บุญนิยมแบบธรรมกายนั้น มันคือการสั่งสมบุญข้ามภพข้ามชาติ การปิดประตูนรกด้วยการไม่ทำบาป หมายถึงโอกาสจะเกิดมาเป็นมนุษย์ การจุติเป็นเทพยดา โดยเฉพาะในแดนสวรรค์ที่น่าปรารถนาอย่าง “ดุสิตบุรีวงบุญพิเศษ” เพราะสวรรค์ชั้นนี้คือ พื้นที่ปลอดภัย สามารถปฏิบัติธรรมได้ ดังนั้น การทุ่มเททำบุญด้วยเงินมหาศาลจึงไม่ใช่เรื่องเสียหายมากนัก เมื่อเทียบกับชีวิตหลังจากนี้

ลูกศิษย์วัดคนหนึ่งที่เอ่ยปากว่าเป็นคนบ้านนอกมาก่อนสามารถระดมทุนให้วัดในหลักสิบล้าน ได้อธิบายไว้อย่างน่าสนใจว่าสำหรับเธอแล้วการทำทานจะทำให้รวย การรักษาศีลจะทำให้สวย และการนั่งสมาธิ จะทำให้เกิดปัญญา จะเห็นเลยว่าการปฏิบัติสามประการมันไม่ได้ตอบโจทย์โลกหน้าอย่างเดียว แต่ยังหมายถึงชีวิตปัจจุบันของเธอด้วย ภาพที่ออกมาสื่อให้เห็นว่า แม้จะเป็นคนที่เข้าถึงโอกาสทางสังคมยาก ก็สามารถประสบความสำเร็จได้ กระนั้น ก็น่าสงสัยอยู่ว่า คนที่มีสถานะทางสังคมที่ต่ำจะถูกเลือกปฏิบัติอย่างไร หรือจะถูกแปลงแรงงานเป็นบุญในรูปแบบไหนหรือไม่ เมื่อเทียบกับคนมีเงินหนาเข้ามาบริจาคให้วัด

ดังนั้นการอุทิศตนของเหล่าสาวกที่บางคนอาจมองว่าเป็นพวกสุดโต่ง ส่วนหนึ่งแล้วก็เป็นไปเพื่อสร้างความสุขของพวกเขาทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ลักษณะพิเศษประการหนึ่งของลูกศิษย์วัดคือ การให้ความสำคัญกับความสะอาดของพื้นที่ทางกายภาพ ไม่ต้องพูดถึงพื้นที่ภายนอกวัดที่ดูสะอาดสะอ้าน การล้างห้องน้ำในสารคดีชี้ให้เห็นเลยว่าเป็นบุญใหญ่ ในมุมนี้ผมนึกถึงศาสนาชินโตที่มีบทบาทต่อวิธีคิดเรื่องความสะอาดของสังคมญี่ปุ่นในบางกรณี ธรรมกายจึงอาจสมาทานแนวคิดที่ใกล้เคียงกันคือ ความสะอาดคือความบริสุทธิ์หมดจด

ความเห็นของตัวละครที่ขัดแย้งเราจะเห็นว่าอย่างน้อย 2 คน คือไพบูลย์และอดีตพระมโนมองพระธัมมชโยไม่ต่างไปจากทักษิณ คือเห็นว่านี่คือ ปัญหาใหญ่ร้ายแรง แต่ก็ใช่ว่าพวกเขาหวาดระแวงโดยไม่มีมูล เพราะเครือข่ายธรรมกายเองไม่ได้แยกขาดออกไปจากกลไกและอำนาจรัฐเป็นองค์กรอิสระ แต่วัดได้อาศัยเครือข่ายลูกศิษย์ที่อยู่ในระบบราชการทั้งในวงการศึกษา และกระทั่งในวงการสงฆ์ไทย ดังที่มิตรสหายแย้งมาว่า การเอาธรรมกายไปเทียบกับขบวนการผีบุญคงไม่อาจเทียบได้เสียทีเดียว พลังมวลชนที่มาจากเงินบริจาคที่น่าสงสัยและการยักย้ายถ่ายเทกลไกของรัฐมาช่วยหนุนอาจเป็นเหตุผลสำคัญของผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับวัดยึดถืออยู่

คู่ขัดแย้งสำคัญของวัดที่แท้จริง อาจไม่ได้ปรากฏตัวอยู่ในภาพยนตร์นี้ หรือหากมีก็เป็นเพียงรูปสัญญะที่ต้องตีความลึกลงไปที่คนทำหนังอาจเลี่ยงที่จะพูดถึง

การโจมตีพระธัมมชโยด้วยคดีทางโลกอย่างการฉ้อโกงเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนแห่งหนึ่ง กลายเป็นข้ออ้างสำคัญในการยกกองกำลังตำรวจเข้าไปค้นในวัด ราวกับว่าเป็นอาชญากรร้ายแรง หรือการค้นรังขบวนการก่อการร้าย จนในที่สุดนำไปสู่การปิดล้อมจนวัดต้องขึ้นป้ายว่าต้องการน้ำและอาหาร

การปิดล้อมที่ยาวนานนำไปสู่ความตายของคน 2 คนเป็นอย่างน้อย คนหนึ่งด้วยโรคร้ายที่ไม่สามารถออกมาจากวัดได้ ซึ่งรัฐบาลปฏิเสธความรับผิดชอบอีกคนผูกคอตายประท้วงการล้อมวัด กรณีนี้วัดก็เป็นผู้ปฏิเสธเสียอีกว่าเป็นลูกศิษย์วัด นับเป็นความเศร้าของการปฏิเสธความรับผิดชอบต่อการจากไปในทั้งสองกรณี

นอกเรื่องเล่าหน้ากล้อง เราอาจหลงลืมไปว่า การล้อมวัดธรรมกายในปี 2560 เกิดขึ้นหลังกษัตริย์สวรรคตไปหนึ่งปี และช่วงปี 2560 ก็เป็นช่วงการแต่งตั้งตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช ก่อนหน้านั้น พระวัดปากน้ำที่เป็นสายสัมพันธ์แนบแน่นกับวัดธรรมกาย อย่างสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ก็ถูกแจ้งความสร้างมลทินด้วยกรณีรถโบราณ กลายเป็นชนักสำคัญที่ขวางทางสู่การขึ้นครองตำแหน่งประมุขคณะสงฆ์

ดังนั้น หากเรามองด้วยแว่นของ “ผีบุญ” การกำราบวัดธรรมกายที่ท้าทายอำนาจรัฐ ในยุคที่คสช.ยังครองเมืองอยู่ จึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ไม่ยากเลยว่า ปฏิบัติการของทั้งผู้บริหารและลูกศิษย์วัดธรรมกายกลายเป็นก้างขวางคอของคณะรัฐประหาร

การเฉยเมยต่อความฉ้อฉลของรัฐประหาร กลายเป็นความเงียบที่ดังแสบแก้วหู ข้อความลูกศิษย์ธรรมกายอ่านแถลงการณ์ทำนองว่า จะยินยอมให้ดำเนินคดีกับหลวงพ่อธัมมชโย ก็ต่อเมื่อบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ ในขณะที่บ้านเมืองเป็นปกติก็ชี้ให้เห็นถึงการสร้างคำอธิบายถึงความไม่ชอบมาพากลของระบบ

ส่วนภาพของลูกศิษย์วัดสละชีวิตที่นั่งสมาธิบ้าง หรือเป็นอาสาสมัครในการติดตามข่าว ถ่ายภาพ ตระเวนสำรวจความเคลื่อนไหว ดูอย่างผิวเผินแล้วไม่ต่างกับชุมนุมเสื้อแดงในเขตราชประสงค์ที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย ผิดแต่ว่าเสื้อแดงในปี 2553 ถูกตัดสินด้วยกระสุนปืนจริงๆ 

และเมื่อเหตุการณ์ล้อมวัดจบลง การเมืองของคณะสงฆ์คลี่คลายไปในทางที่ควรจะเป็นแล้ว คดีสมเด็จช่วงอัยการสั่งไม่ฟ้อง วัดธรรมกายก็กลับมาปฏิบัติธรรมกันต่อไป แต่จะมีการวางเงื่อนไขหรือไม่ไม่ทราบ แต่สิ่งที่เป็นคือ เราไม่พบว่าเบอร์ 1 ของวัดออกมาปรากฏตัวอีกเลยหลังจากเหตุการณ์ในปี 2560

นี่ก็เป็นเวลากว่า 4 ปีมาแล้ว


ดู เอหิปัสสิโก ได้ที่ Netflix

LATEST REVIEWS