Home Film News ซีรีส์ Ms. Marvel จ่อฉายโรงปากีสถาน ในขณะที่ Doctor Strange โดนแบนในซาอุฯ คูเวต และกาตาร์

ซีรีส์ Ms. Marvel จ่อฉายโรงปากีสถาน ในขณะที่ Doctor Strange โดนแบนในซาอุฯ คูเวต และกาตาร์

ซีรีส์ Ms. Marvel จ่อฉายโรงปากีสถาน ในขณะที่ Doctor Strange โดนแบนในซาอุฯ คูเวต และกาตาร์

เป็นเพราะ Disney+ ไม่ได้ให้บริการสตรีมมิ่งในปากีสถาน ล่าสุดจึงมีการประกาศออกมาอย่างครึกโครมว่าซีรีส์ Ms. Marvel ที่มีตัวละครหลักเป็นซุปเปอร์ฮีโร่วัยรุ่นหญิงมุสลิมนาม กมลา ข่าน (รับบทโดยนักแสดงหน้าใหม่ อิมาน เวลลานี) จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ปากีสถานเพื่อเฉลิมฉลองพลังหญิงมุสลิมรุ่นใหม่ โดยซีรีส์ 6 ตอนจบเรื่องนี้จะถูกฉายควบทีละ 2 ตอนตามลำดับ ระหว่างเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม ในช่วงเทศกาลสิ้นสุดการถือศีลอด

นี่เป็นครั้งแรกที่ซีรีส์มาร์เวลเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ และ HKC Entertainment ผู้ได้สิทธิในการจัดฉายในปากีสถานก็ได้กล่าวว่า “ซีรีส์เรื่องนี้คือการเฉลิมฉลองที่งดงามให้กับศิลปะ วัฒนธรรม รวมถึงผู้มีความสามารถโดดเด่นของปากีสถาน เพราะมันแสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมที่หลากหลายของคนทำงานสร้างสรรค์ในประเทศในทุกภาคส่วนของเรื่อง” ขีดเส้นใต้ว่าการตัดสินใจนี้น่าจะเป็นเรื่องของความภูมิใจในชาติด้วยส่วนหนึ่ง

แต่ในขณะที่ความพยายามคำนึงถึงอัตลักษณ์ที่หลากหลายของ Ms. Marvel จะได้รับการตอบรับที่อบอุ่นและการสนับสนุนอย่างเต็มที่จนน่าแปลกใจจากฟากปากีสถาน แต่อีกหนึ่งหนังมาร์เวลอย่าง Doctor Strange in the Multiverse of Madness กลับได้รับการตอบรับอีกแบบ นั่นคือหนังถูกระงับฉายในซาอุดิอาระเบีย คูเวต และกาตาร์ เพราะมีตัวละครที่เป็นบุคคลข้ามเพศ ซึ่งรับบทโดยนักแสดงที่นิยามตัวเองว่าเป็นนอนไบนารี่

แต่นี่ก็ไม่ใช่หนังเรื่องแรกของมาร์เวลที่ถูกแบนในประเทศมุสลิม เพราะเมื่อปลายปีที่แล้ว The Eternals ก็ถูกระงับฉายในสามประเทศนี้เช่นกัน เพราะมีตัวละครซุปเปอร์ฮีโร่ที่เปิดเผยตัวว่าเป็นเกย์ ในสองกรณีนี้ รัฐอิสลามต่างๆ ตัดสินใจแบนหนัง เพราะมาร์เวลและดิสนีย์ปฏิเสธที่จะตัดส่วนที่อ้างถึงความหลากหลายทางเพศออกไปตามคำขอ ชวนให้คิดว่าอาจไม่ใช่ทุกความหลากหลายที่จะได้รับการเฉลิมฉลองในประเทศมุสลิม ในส่วนของซาอุดิอาระเบีย แม้มกุฏราชกุมารโมฮัมเมด บิน ซาลมาน จะพยายามปฏิรูปประเทศให้มีความก้าวหน้ามากขึ้นมาพักใหญ่ (ภายใต้คำถามถึงความเป็นเผด็จการที่เหี้ยมโหด) ทั้งอนุญาตให้โรงหนังกลับมาเปิดเมื่อปี 2560 หลังจากถูกแบนมาถึง 35 ปี และเปิดกว้างทางวัฒนธรรมในรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่อนุญาตให้จัดคอนเสิร์ต อนุญาตให้ผู้หญิงขับรถ หรือยกเลิกตำรวจศาสนา แต่ในด้านความเชื่อและอุดมคติ การยื้อยุดกันระหว่างอนุรักษ์นิยมและเสรีนิยมก็ยังมีอยู่อย่างเข้มข้นจนถึงปัจจุบัน รวมถึงในเรื่องความหลากหลายทางเพศด้วย

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here