‘เอหิปัสสิโก’ โรงแตก! เปิดตัว 3 แสนบาทจากโรงฉายจำกัด

รายได้เปิดตัวหนัง 3 แสนบาท อาจไม่ได้น่าตื่นเต้นเท่าไหร่ แต่สำหรับ Come and See หรือ ‘เอหิปัสสิโก’ หนังสารคดีอิสระของไทย ผลงานของ ณฐพล บุญประกอบ ถือเป็นปรากฏการณ์ย่อมๆ ในวันที่ข่าวการแพร่ระบาดโควิดเข้าขั้นวิกฤติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการเข้าฉายเพียง 8 โรง และจำกัดรอบเฉลี่ยโรงละ 3 รอบเท่านั้น

‘เอหิปัสสิโก’ เป็นหนังเรื่องแรกจากโครงการ ‘หนังเลือกทาง’ อันเป็นการร่วมมือกันระหว่าง สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย และ สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ ในการผลักดันหนังอิสระให้สามารถเข้าฉายในวงกว้างไปตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ด้วยส่วนแบ่งที่เป็นธรรม

อนุชา บุญยวรรธนะ นายกสมาคมผู้กำกับฯ และผู้ผลักดันโครงการหนังเลือกทาง เล่าความรู้สึกว่า “ดีใจนะคะที่ฉายแล้วประสบความสำเร็จ ถือว่าเกินคาดมากๆ คิดว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่เราต้องการขยายฐานคนดู

“ในกรุงเทพฯ เรามีฐานคนดูอยู่แล้ว แต่ที่เราต้องการเพิ่มเติมคือคนดูหนังในต่างจังหวัด อย่างหนังเรื่องนี้เราก็จะมีการพาผู้กำกับไปพูดคุยกับคนดูโดยจะเริ่มจากหาดใหญ่และเชียงใหม่ซึ่งสองที่นี้มีฐานของผู้ชมอยู่แล้ว หลังจากเห็นตัวเลขวันแรกแล้วเราก็กำลังหารือกับทางสมาพันธ์ฯ เพื่อหาทางให้หนังมันขยายไปมากกว่านี้

“วัตถุประสงค์หลักของโครงการคือการขยายฐานผู้ชมให้หนังไทยอิสระ ซึ่งการจัดจำหน่ายหนังกลุ่มนี้อาจจะยากกว่าหนังทั่วไป เพราะมันไม่ใช่แค่ซื้อสื่อตรงนั้นตรงนี้แล้วจบ หนังอิสระมันต้องการการพูดคุย ทำความเข้าใจกับผู้ชมให้เขารู้ว่าหนังมันน่าสนใจอย่างไร ซึ่งก็ต้องขอบคุณ สมาพันธ์ฯ และเครือโรงภาพยนตร์ทุกเครือที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี”

สารคดี ‘เอหิปัสสิโก’ เล่าเรื่องการต่อสู้ของลูกศิษย์วัดธรรมกายเพื่อความเชื่อและศรัทธาของพวกเขา ที่อาจสวนกระแสศรัทธาในพระพุทธศาสนาของคนส่วนใหญ่ในสังคม ซึ่งประเด็นที่ชวนถกเถียงนั้นประกอบกับข่าวก่อนหน้านี้ว่าหนังอาจถูกแบนจนผู้สร้างถูกเรียกเข้าพบนั้น ทำให้หนังได้รับความสนใจมากขึ้น

และจากการลงพื้นที่สำรวจของทีมงาน Film Club ตามโรงต่างๆ ที่เข้าฉาย พบว่าทุกจุดมีผู้ชมเกือบเต็มไปจนถึงเต็มทุกที่นั่งทุกรอบ และผู้ชมนั้นเป็นผู้ใหญ่และผู้สูงอายุซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่ค่อยเข้าโรงหนังแล้วในปัจจุบัน

อนุชาเล่าว่าโรงหนังกำลังเพิ่มรอบและโรงฉายให้ ‘เอหิปัสสิโก’ ในช่วงวันหยุดยาวที่จะถึงนี้ เนื่องจากรายได้ของหนังยังคึกคักตามหัวเมืองต่างๆ อีกด้วย

(*รายได้ 3 แสนบาท เป็นรายได้เฉพาะกรุงเทพฯ และเชียงใหม่)

Related NEWS

LATEST NEWS