กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ทันที เมื่อ Channel 5 เครือข่ายทีวีในอังกฤษลงมือเซ็นเซอร์ Breakfast at Tiffany’s หนังอเมริกันคลาสสิกปี 1961 โดยไม่ใช่แค่การเบลอภาพหรือตัดทิ้งไม่กี่นาทีแบบการเซ็นเซอร์ทั่วไป แต่สั่งตัดฉากที่มี “ตัวละครปัญหา” ทิ้งทุกฉาก
ตัวละครที่ว่านี้ก็คือ “มิสเตอร์ยูนิโอชิ” ชายชาวญี่ปุ่นซึ่งรับบทโดย มิกกี้ รูนีย์ ที่เมคอัพผิวให้กลายเป็นผิวเหลือง ใส่ฟันเหยิน ติดเทปดึงตาให้ตี่ และพูดติดสำเนียงเว่อเกินจริง แน่นอนว่าบทนี้อาจเป็นเพียงสีสันหรืออารมณ์ขันเมื่อครั้งหนังเพิ่งออกฉาย แต่ปัจจุบันมันถูกมองว่าเป็นการใช้ดาราผิวขาวมาเล่นเป็นคนญี่ปุ่นแบบล้อเลียนด้วยท่าทีเหยียดเชื้อชาติ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ Channel 5 ตัดสินใจสั่งตัดตัวละครนี้ทิ้งทั้งยวงก่อนปล่อยฉายทางช่อง
กรณีนี้สร้างกระแสถกเถียงอย่างกว้างขวาง เพราะแม้หนังเรื่องนี้จะเคยฉายทางทีวี (เช่น สถานี Sky) และมีการขึ้นคำเตือนเพื่อกระตุ้นให้คนดูสังเกตการมีอยู่อย่างไม่เหมาะสมของตัวละครตัวนี้มาแล้ว แต่นี่คือครั้งแรกที่ถึงขั้นมีการเซ็นเซอร์ด้วยการตัดตัวละครทิ้งทั้งหมด ซึ่งทำให้บางฝ่ายเกิดคำถามว่าเป็นการ “เขียนประวัติศาสตร์ใหม่” ที่ “น่าเป็นห่วง” หรือไม่
เทอร์รี กิลเลียม ผู้กำกับอังกฤษและอดีตทีมงานนักแสดงตลกเลื่องชื่อมอนตี ไพธอน แสดงความเห็นว่า “ดูเหมือนการเซ็นเซอร์จะเติบโตขึ้นทุกวันในวงการหนังอังกฤษ การที่คนปัจจุบันมาตัดตัวละครออกจากหนังที่เคยผ่านการพิจารณาของคณะเซ็นเซอร์ในอดีตมาแล้ว มันดูเป็นเรื่องประหลาดและอันตรายมาก”
ฌอน เฮปเบิร์น เฟอร์เรอร์ ลูกชายของออเดรย์ เฮปเบิร์น นักแสดงนำหญิงของ Breakfast at Tiffany’s (ซึ่งได้เข้าชิงรางวัลออสการ์จากบทนี้ด้วย) แสดงความเห็นว่า “ผมคิดว่าเวลาเราจะมองหนังเรื่องไหน เราต้องมองมันด้วยสายตาของคนในยุคสมัยนั้นนะครับ ไม่ใช่มองด้วยมุมมองของคนยุคสมัยเรา ราวกับว่ายุคเราเท่านั้นที่สำคัญที่สุด”
การตัดตัวละครของรูนีย์ทิ้ง มีผลต่อเนื่องให้หนึ่งในประโยคสนทนาโด่งดังของเฮปเบิร์นในหนังต้องพลอยหายไปด้วย ฉากดังกล่าวเป็นตอนที่เธอปลุกยูนิโอชิให้ตื่นแล้วเขาโมโหจัด โดยในหนังเวอร์ชั่นใหม่ทาง Channel 5 คนดูจะไม่ได้ยินเสียงตอบของเขา รวมทั้งบทพูดท่อนต่อมาของเฮปเบิร์นที่ว่า “อย่าโกรธเลยค่ะพ่อหนุ่มร่างเล็กรูปหล่อ ฉันจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว ถ้าคุณสัญญาว่าจะไม่โกรธ ฉันอาจจะยอมให้คุณถ่ายรูปแบบที่เราคุยกันไว้นะ”