Home Film News ค่ายใหญ่ยังพ่าย! “บลัมเฮ้าส์” ชนะประมูลคว้าบทความดังเตรียมทำหนัง

ค่ายใหญ่ยังพ่าย! “บลัมเฮ้าส์” ชนะประมูลคว้าบทความดังเตรียมทำหนัง

ค่ายใหญ่ยังพ่าย! “บลัมเฮ้าส์” ชนะประมูลคว้าบทความดังเตรียมทำหนัง

ท่ามกลางคู่แข่งแข็งๆ อย่างสตูดิโอไลออนเกตส์ทีวี, ทเวนตี้ทีวี, ยูซีพี, ค่ายแอมบลิน, เอชบีโอ และค่ายผู้สร้างหนังดังๆ อย่างเชอร์นินเอนเตอร์เทนเมนต์ (Ford v. Ferrari), ค่ายเมคเรดดี้ (Queen & Slim) และค่ายทันเดอร์โร้ด (John Wick) …ค่ายหนังสยองขวัญ “บลัมเฮ้าส์” กลับสามารถคว้าชัยในการแย่งประมูลสิทธิทำหนังของบทความโด่งดังในหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ไปได้สำเร็จ โดยมีข่าวว่า ราคาที่เสนอประมูลกันนั้น สูงสุดถึงขั้นเป็นตัวเลข 7 หลักเลยทีเดียว!

บทความสุดฮ็อตที่ว่านี้มีชื่อว่า “She Stalked Her Daughter’s Killers Across Mexico, One by One” (เธอสะกดรอยฆาตกรที่สังหารลูกสาวของเธอไปทั่วเม็กซิโก ทีละคน) เขียนโดย อาซัม อาห์เม็ด (มือเขียนบทความเชิงข่าวเจ้าของรางวัลมากมาย) เพิ่งลงตีพิมพ์เมื่อวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมานี้เอง

ในบทความเล่าเรื่องสุดเข้มข้นของคุณแม่ชื่อ มีเรียม โรดริเกซ ซึ่งอาศัยอยู่ในซานเฟอร์นันโด ประเทศเม็กซิโก ลูกสาววัย 20 ปีของเธอถูกลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่ตั้งแต่ปี 2014 และแม้เธอจะยอมจ่ายเงินค่าไถ่แล้ว แต่กลับไม่ได้ตัวลูกคืนมา ซ้ำร้ายบรรดาตำรวจและเจ้าหน้าที่รัฐก็ไม่ใส่ใจจะติดตามคดีที่เกี่ยวข้องกับแก๊งค้ายานี้เลย แม่ผู้ไม่มีอะไรจะสูญเสียจึงตัดสินใจลงมือแกะหาร่องรอยแก๊งลักพาตัวดังกล่าวทางโซเชียลมีเดีย, ตัดผม และปลอมตัว (โดยปลอมเป็นตั้งแต่เจ้าหน้าที่ประกันสังคมไปจนถึงเจ้าหน้าที่ดูแลการเลือกตั้ง) แล้วสะกดรอยตามคนเหล่านั้นทีละคนๆ อยู่หลายเดือน จนความพยายามอันทรหดของเธอนำไปสู่การจับตัวสมาชิกแก๊งค้ายาท้องถิ่นได้ 10 คนในที่สุด

บทความของอาห์เม็ดเล่าเรื่องข้างต้นควบคู่ไปกับคดีลักพาตัวอีกคดีหนึ่งซึ่งน่าสะเทือนใจพอๆ กัน เป็นเรื่องของเด็กชายวัย 14 ปีในเมืองเดิมที่เพิ่งเกิดขึ้นในปี 2020 นี้เอง เพื่อถ่ายทอดให้เห็นว่าสิ่งต่างๆ เปลี่ยนและไม่เปลี่ยนอย่างไรบ้างหลังการล้างแค้นด้วยตัวคนเดียวของโรดริเกซ ซึ่งคนอ่านอาจจะมองว่านี่คือเรื่องราวของวีรสตรีผู้หาญกล้า หรืออาจจะมองเป็นเรื่องน่าหดหู่ใจของผู้คนที่ต้องมีชีวิตอยู่ท่ามกลางความป่าเถื่อนและเพิกเฉยของผู้มีอำนาจก็ได้เช่นกัน

สำหรับเหตุผลที่ค่ายบลัมเฮ้าส์สามารถเอาชนะค่ายใหญ่ในการประมูลสิทธิของบทความนี้ไปได้ คาดว่าน่าจะเพราะพวกเขาเป็นค่ายเดียวที่เสนอว่าจะนำมันไปทำหนัง (ส่วนค่ายอื่นๆ เสนอทำซีรี่ส์เป็นส่วนใหญ่) และแม้จะโด่งดังจากหนังสยองขวัญ แต่บลัมเฮ้าส์ก็มีงานแนวอื่นที่ดีงามเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นหนังเสียดสีร้ายกาจอย่าง Get Out, มินิซีรี่ส์ The Loudest Voice และล่าสุดคือซีรี่ส์โด่งดังเรื่อง The Good Lord Bird

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here