นับเป็นเรื่องยากเหลือเกินที่จะเบือนสายตาออกไปจากข่าวสารการชุมนุมช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่การหันเหความสนใจของเราออกไปบ้างเพื่อพักผ่อนฟื้นฟูสภาพจิตใจก็นับเป็นสิ่งที่จำเป็น ถือว่าโชคเข้าข้างเราอยู่บ้างที่ยังมีสิ่งที่น่าสนใจและเข้ากันกับสถานการณ์บ้านเมืองให้หาดูในระบบสตรีมมิ่ง ทั้งหนังแห่งการประท้วงอย่าง The Trial of The Chicago 7 และสารคดีชุดใหม่ของ Vox สำนักคอนเทนต์หัวก้าวหน้าที่เราจะหยิบยกมาพูดถึงกันในครั้งนี้
Whose Vote Counts, Explained คือซีรีส์สารคดีเชิงอรรถ 3 ตอน ความยาวตอนละ 25 นาที ภายในประกอบด้วยชุดข้อมูลและกราฟิกสนุกๆ ย่อยง่ายที่จะพาเราออกสำรวจปัญหาและมุมมองต่างๆ ของการเลือกตั้ง สิทธิขั้นพื้นฐานที่สุดของพลเมืองอเมริกาที่แม้ว่าจะก่อตั้งประเทศขึ้นมาด้วยประชาธิปไตยได้หลายร้อยปีแล้ว ก็ยังมีเรื่องน่าปวดหัวให้ทบทวนแก้ไขได้ไม่จบสิ้นจนถึงทุกวันนี้ มันถูกจัดทำขึ้นเพื่อกระตุ้นเตือนให้ผู้ชมได้ตระหนักว่าในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่กำลังจะมาถึงในเดือนพฤศจิกายน เสียงของทุกคนมีคุณค่าเท่าเทียมกัน
และนี่คือรายละเอียดของ Explained ทั้ง 3 ตอนที่ว่านั้น
The Right to Vote
(ให้เสียงบรรยายโดย ลีโอนาร์โด ดีคาร์ปริโอ)
“มนุษย์ทุกคนถูกสร้างขึ้นมาให้เท่าเทียมกัน” คือข้อความสำคัญในคำประกาศอิสรภาพสหรัฐอเมริกาปี 1776 แต่ถึงกระนั้นการต่อสู้เพื่อสิทธิในการเลือกตั้งของพลเมืองอเมริกาก็ยังคงดำเนินมาอย่างยาวนานต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้ ตอนแรกสุดของสารคดีชุดนี้พาเราไปสำรวจเส้นทางความเปลี่ยนแปลงของสิทธิในการเลือกตั้ง จากเอกสิทธิ์เฉพาะชายคนขาวที่รวย สู่สิทธิขั้นพื้นฐานของคนจน ผู้หญิง ชนพื้นเมือง คนดำ ผู้อพยพ เยาวชน และนักโทษ โดยมีความพยายามจะขัดขวางสิทธิของผู้มีอำนาจรับผิดชอบการเลือกตั้ง (ซึ่งมักจะเป็นฝ่ายที่อยู่ในอำนาจและต้องการสืบต่ออำนาจต่อไป) เป็นอุปสรรค
สมรภูมินี้ยิ่งปรากฏชัดขึ้นในวิกฤตโรคระบาดปี 2020 เมื่อมีการเล็งเห็นว่ามีความพยายามที่จะทำให้การใช้สิทธิเลือกตั้งยุ่งยากเกินจำเป็น ตลกร้ายของเรื่องนี้ก็คือ กลไกลใดๆ เหล่านี้ ถูกออกแบบเพื่อที่จะขจัดการโกงการเลือกตั้ง กลับถูกใช้เป็นเครื่องมือควบคุมผลการเลือกตั้ง กลายเป็นกลโกงในตัวมันเอง ความยุ่งยากนี้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อคะแนนเสียงของผู้ใช้สิทธิจำนวนมากเสียจนอาจทำให้คุณค่าที่ประชาชนยึดถือถูกละเลยไปตลอดสมัย 4 ปีของ “ผู้แทน” ที่ไม่ตอบสนองคุณค่าแบบเดียวกัน
Can You Buy an Election
(ให้เสียงบรรยายโดย เซเลน่า โกเมซ)
ปัญหาสำคัญของโลกเสรีทุนนิยมอย่างอเมริกาคือ เมื่อความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจเติบโตได้ที่ ผู้คนทั่วไปจะเสื่อมศรัทธากับการเลือกตั้ง เพราะรู้สึกว่าเสียงของพวกเขาไม่สำคัญเท่าเสียงของนายทุนไม่กี่คนที่จ่ายเงินสนับสนุนพรรคการเมือง ตอนที่สองของสารคดีชุดนี้เป็นการชำแหละงบประมาณด้านการหาเสียงและ ช่องทางที่นายทุน “มือมืด” อาศัยเสรีภาพในการแสดงออกคอยให้เงินทุนผลักดันแคมเปญหาเสียงแบบไม่ออกนาม
ผลของการอัดประโคมโฆษณาทุกวิถีทางเพื่อให้คนของตัวเองเข้าไปอยู่ในตำแหน่งที่ต้องการคือ เสียงของโฆษณายิ่งดังขึ้นจนกลบเสียงของเสียงเรียกร้องของผู้คน 99% ที่ไม่ใช่ชนชั้นนายทุน ลดแรงจูงใจในการออกไปเลือกตั้งของผู้ใช้สิทธิ และเพิ่มผู้แทนที่ให้ประโยชน์กับกลุ่มทุนเข้าไปในสภาอย่างเป็นระบบ ทว่าท่ามกลางปมปัญหาที่ดูเหมือนไม่อาจจะสางออกได้ง่ายๆ นี้ กลับมีข้อมูลที่น่าสนใจว่า ในบางรัฐ ยิ่งผู้สมัครลงเลือกตั้งใช้เงินเยอะขึ้นเท่าไร พวกเขากลับยิ่งมีโอกาสชนะการเลือกตั้งน้อยลงเท่านั้น เพราะมีข้อบังคับให้สื่อโฆษณาทางการเมืองทุกชิ้นเปิดเผยแหล่งที่มาของเงินในการจัดทำ กล่าวคือ ยิ่งโปร่งใสเท่าไร มือมืดก็ยิ่งไร้น้ำยาเท่านั้นนั่นเอง
Whose Vote Counts
(ให้เสียงบรรยายโดย จอห์น เลเจนด์)
แม้ว่าโดนัลด์ ทรัมป์และพรรครีพับลิกันจะได้รับคะแนนเสียงน้อยกว่าเดโมแครต แต่กลับมีที่นั่งในสภามากกว่า และกลายเป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้งในปี 2016 ข้อเท็จจริงชวนเกาหัวข้อนี้ทำให้เกิดคำถามว่า หากการเลือกตั้งสะท้อนความต้องการของผู้คนจริงๆ เหตุใดผลลัพธ์ของมันจึงออกมาในรูปแบบนี้
ตอนสุดท้ายของสารคดีชุดนี้ให้คำอธิบายไว้ว่าปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นได้จากช่องโหว่ใหญ่ของระบบเลือกตั้งในสหรัฐอเมริกา 2 ประการ ประการแรกคือลูกไม้ทางคณิตศาสตร์ที่เรียกกันว่า Gerrymandering หรือการแบ่งเขตเพื่อควบคุมผลการเลือกตั้ง กลไกนี้อาจถูกหยิบมาใช้ประโยชน์ได้จากทั้งสองฟากพรรคใหญ่ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบการเลือกตั้ง และเกิดขึ้นได้เองตามพฤติกรรมการย้ายถิ่นที่อยู่อาศัยของประชากร ไม่ว่าจะเกิดขึ้นอย่างไรก็ตาม มันได้ถูกพิสูจน์ด้วยการจำลองการแบ่งเขตนับครั้งไม่ถ้วนว่า มีแนวโน้มว่าทางฝั่งรีพับลิกันจะได้เปรียบอยู่เสมอ ความได้เปรียบที่ว่านี้นำไปสู่ช่องโหว่ประการที่สอง นั่นก็คือระบบการจัดสรรผู้แทนแบบหนึ่งคนต่อหนึ่งเขต ที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ “เสียงตกน้ำ” หรือเสียงที่เลือกคนที่แพ้ไม่ได้รับการเหลียวแล แม้ว่าจะมีเยอะมากเพียงใดก็ตาม
จริงอยู่ Whose Vote Counts, Explained นำเสนอปัญหามากมายในกระบวนการเลือกตั้งของมหาอำนาจฟากเสรีนิยม และก็เป็นความจริงอีกเช่นกันที่ปัญหาเหล่านี้ “แก้ได้” ด้วยการออกไปใช้สิทธิใช้เสียงเลือกตั้ง แน่นอนว่าปัญหาทั้งหมดคงไม่อาจจบลงเพียงชั่วข้ามคืน และมันอาจต้องผ่านการต่อสู้ยาวนานเกินสมัยของรัฐบาลที่กำลังจะถูกเลือก แต่มันจะต้องถูกแก้ไขในที่สุด ตราบใดที่ผู้คนยังคงเชื่อมั่นในสิทธิและเสียงของตัวเอง บนดินแดนที่สร้างขึ้นและดำรงอยู่ได้ด้วยหลักการที่ว่า “มนุษย์ทุกคนถูกสร้างขึ้นมาอย่างเท่าเทียม”
สำหรับใครที่ชื่นชอบสารคดีชุดนี้ Explained ยังมีสารคดีชุดอื่นๆ ที่พูดเรื่องประเด็นที่น่าสนใจให้ชมอีกมากมาย ทั้งชุด Sex, Explained ที่ว่าด้วยเรื่องเพศ Mind, Explained เกี่ยวกับกลไกทางสมองและสุขภาพจิต Coronavirus, Explained ที่พูดเรื่องวิกฤตการโณคระบาดในปีนี้ และสารคดีชุด Explained อีก 2 ซีซั่นที่พูดเรื่องประเด็นน่าสนใจทั่วไปบนโลก
Whose Vote Counts, Explained และสารคดีชุด Explained ทั้งหมดสามารถรับชมได้แล้วทาง Netflix