Home Review Film Review Luca ปลารักฉันด้วยใจเธอ

Luca ปลารักฉันด้วยใจเธอ

Luca ปลารักฉันด้วยใจเธอ

เรื่องทั้งหมดมันเริ่มจากขยะไม่กี่ชิ้นที่ลูก้าเก็บได้ที่ใต้ทะเล สำหรับเด็กชาวทะเลอย่างเขา ข้าวของของ “ปิศาจบก” ทุกชิ้นที่เก็บได้ไม่ต่างอะไรกับวัตถุจากดาวดวงอื่น ลูก้าไม่เคยเห็นอะไรที่อยู่เหนือน้ำขึ้นไป โลกของปิศาจบกเต็มไปด้วยปริศนาดำมืด แต่เขากลับสนใจมันมากกว่ากลัว ทั้งที่แม่เตือนทุกเช้าเย็นว่าอย่าได้เข้าไปใกล้ วันหนึ่งลูก้าฝ่าฝืนข้อห้ามของแม่อย่างไม่ตั้งใจด้วยการไล่ตามอัลแบร์โต้ เด็กชายชาวทะเลแปลกหน้าคนหนึ่งขึ้นไปบนบก ลูก้ากลายร่างเป็นปิศาจบกทันที และพบว่าโลกเหนือผืนน้ำไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คาด นับแต่นั้นมา เขาก็แอบแม่ขึ้นมาเล่นกับอัลแบร์โต้บนบกทุกครั้ง มิตรภาพเบ่งบานจนทั้งคู่มีความฝันร่วมกันถึง “รถเวสป้า” พาหนะสุดวิเศษที่จะพาพวกเขาท่องไปทุกที่ดังใจนึก

ทันทีที่ Luca ออกฉาย หนังได้รับชื่อเรียกเล่นๆ จากบรรดาสื่อว่าเป็น Call Me By Your Name ฉบับ Pixar แน่นอนว่าทางผู้กำกับเองก็ออกมาแจงต่อสื่อแล้วว่าไม่ได้จงใจจะให้มันออกมาเป็นแบบนั้น แต่ก็ช่วยไม่ได้เมื่อองค์ประกอบหลายอย่างของแอนิเมชั่นเรื่องนี้ไปพ้องเข้ากับหนังรักชื่อดังอีกเรื่อง ทั้งชื่อของตัวละครหลักที่เหมือนกับผู้กำกับลูก้า กวาดาญีโน บรรดากาศหน้าร้อนในเมืองเล็กๆ อันห่างไกลและมิตรภาพอันลึกซึ้งระหว่างเด็กชายสองคนที่เพิ่งคนพบโลกใบใหม่ ช่างเอื้อต่อการอ่านการตีความให้ไปทางหนังเควียร์โรแมนติก ขณะเดียวกันก็มีพ่อแม่บางกลุ่มส่งเสียงต่อต้านการตีความเช่นนี้ว่าเป็นการตีความที่คับแคบและหนังแอนิเมชั่นสำหรับเด็กไม่สมควรถูกตีความไปในทางลามก (?) แบบผู้ใหญ่

แน่นอนว่าความเป็นห่วงเป็นใยทำนองนี้ออกจะชวนกุมขมับอยู่ไม่น้อย แต่มันก็ไม่ผิดไปเสียทั้งหมด

ก่อนจะออกความเห็นใดๆ ต่อไป ผมขอพูดถึงคู่เทียบที่น่าสนใจของ Luca เสียก่อน ไม่หรอก… ผมไม่ได้กำลังหมายถึง Call Me By Your Name แต่ผมกำลังหมายถึงซีรีส์ไทยเรื่อง แปลรักฉันด้วยใจเธอ ทั้งสองภาคต่างหาก โครงสร้างของมันคือเรื่องราวของเด็กหนุ่มสองคนที่พากันออกจากพื้นที่เดิมของตัวเอง (ขึ้นจากบก – เข้าเมืองกรุง) เพื่อไขว่คว้าหาความฝันอันยิ่งใหญ่ (รถเวสป้า – ความสำเร็จในฐานะนักแสดง) ก่อนจะค้นพบความเปลี่ยนแปลงและแยกกันไปทำตามความฝัน (ไปเรียนในเมือง – ไปทำงานโฆษณา) สิ่งที่ทั้งสองเรื่องนำเสนอคือความกล้าหาญที่จะยอมรับความต้องการของตัวเอง ซึ่งในที่นี้ มันอาจจะต้องพึ่งพาความเข้มแข็งยิ่งกว่าคนที่ยึดมั่นอยู่กับความฝันเดิมเสียด้วยซ้ำ เมื่อถึงจุดหนึ่งของเรื่อง ทั้งลูก้าและโอ้เอ๋วต่างก็ตระหนักได้ว่ายังมีหลายอย่างให้ออกไปค้นพบ ฝันของพวกเขาไม่จำเป็นต้องแบ่งปันกับใคร แม้กระทั่งคนสำคัญที่สุดในชีวิต 

เงื่อนไขบางอย่างที่ Luca ต่างออกไปจากแปลรักฉันด้วยใจเธอ (โดยไม่นับรูปแบบความสัมพันธ์ของตัวละครหลักทั้งสอง) ก็คืออิทธิพลของผู้ใหญ่ ปัญหาและอุปสรรคของลูก้า อัลแบร์โต้ และจูเลียตต้า คืออำนาจของผู้ใหญ่ที่มาในรูปแบบอันแตกต่าง ลูก้าหนีออกจากบ้านเพราะแม่ขู่ว่าจะส่งไปอยู่กับญาติหน้าตาน่ากลัวตลอดฤดูร้อน อัลแบร์โต้จมอยู่กับความโดดเดี่ยวเพราะถูกพ่อทอดทิ้ง ศัตรูตลอดกาลของจูเลียตต้าคือวัยรุ่นหัวโจกที่โกงอายุลงมาแข่งกับเด็ก เด็กทั้งสามอาจไม่ได้ลงแข่งแรลลี่จักรยานชิงเงินรางวัลหากพ่อแม่ลูก้าตามมาเจอตัวเข้าเสียก่อน ขณะอิทธิพลของผู้ใหญ่ในแปลรักฉันฯ อาจไม่ได้มีผลต่อการตัดสินใจของเต๋และโอ้เอ๋วมากเท่าแรงผลักจากภายใน ซึ่งเป็นอันเข้าใจได้ในฐานะที่มันเป็นเรื่องราวของวัยรุ่น คำถามก็คือ ทำไม “การ์ตูนเด็ก” อย่าง Luca จึงตั้งคำถามกับผู้ใหญ่อย่างชัดเจนขนาดนั้น

อีกเรื่องคือเงื่อนไขการขึ้นบกของลูก้าและอัลแบร์โต การที่ชาวทะเลไม่อาจคงสภาพชาวบกเอาไว้ได้หากโดนน้ำ อาจจะเทียบได้กับการที่พวกเขาไม่สามารถดำเนินชีวิตตามวิถีปกติได้อย่างเป็นอิสระ พวกเขาไม่สามารถการอาบน้ำ ล้างหน้า ล้างมือ ลงทะเลหาปลาแบบคนทั่วไปในเมืองท่าริเวียร่าได้ตามใจชอบ ตราบใดที่ชาวบกยังตัดสินใจที่จะไล่ล่าเอาชีวิตปิศาจทะเลทันทีที่เห็น ทั้งลูก้าและอัลแบร์โตก็ไม่อาจเผลอตัวปล่อยให้ตัวเองแสดงตนเป็นชาวทะเล ส่วนในแปลรักฉันฯ นอกจากในช่วงครึ่งแรกที่เต๋มีปัญหากับความรักความชอบของตัวเองเมื่อเอาไปเทียบกับพี่ชายแล้ว ดูจะไม่มีใครมีปัญหากับการแสดงตนของเขาแม้แต่น้อย ซึ่งในความเห็นของผมก็นับว่าเป็นเรื่องดีที่การเล่าเรื่องเควียร์ในบ้านเราจะได้ขยับไปสำรวจมิติอื่นๆ กันบ้าง

ส่วนนี้นี่เองที่ทำให้การตีความให้ Luca เป็นการ์ตูนเควียร์อาจจะดูคับแคบไปสักนิด ภาวะการปิดบังตัวตนของชาวทะเลทั้งสองเป็นตัวแปรที่อาจถูกแทนที่ด้วยอะไรก็ได้อย่างเชื้อชาติ ศาสนา และค่านิยมบางประการที่ไม่พ้องกับคนส่วนใหญ่ การปิดบังอำพรางอย่างการเลี่ยงที่จะไม่โดนน้ำของชาวทะเลนั้นเป็นสิ่งเดียวกันกับการปิดบังความเป็นอื่นของชนชายขอบ มันเป็นไปเพื่อปกป้องพวกเขาจากอันตรายทางกาย และอันตรายทางความรู้สึก แต่มันก็ไม่อาจดำเนินไปได้ตลอด ในเมื่อน้ำเป็นองค์ประกอบสำคัญในการดำรงชีวิตของทั้งชาวบกและชาวทะเล เมื่อพวกเขาต้องดำเนินชีวิตตามวิถีอันควรจะเป็น การปิดบังอำพรางก็ยิ่งจะทำได้ยากยิ่งขึ้นในทุกขณะ

แต่ทั้งนี้การอ่านหนังการ์ตูนเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด ในเมื่ออุปสรรคในชีวิตของลูก้าและอัลแบร์โต ก็คือสิ่งเดียวกันกับที่ชาวเควียร์ต้องฟันฝ่ามาหลายยุคสมัย และสารสำคัญของตัวหนังเองก็เป็นเรื่องเดียวกันกับที่ขบวนการไพรด์พูดอยู่เสมอมา มันพูดกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ว่า พวกเราทุกคน ทั้งชาวบกและชาวทะเล ล้วนมีหัวจิตหัวใจ มีความรู้สึกรู้สาไม่ต่างอะไรกันเลยแม้แต่นิดเดียว

สำหรับผม อีกส่วนที่น่าสนใจไม่แพ้เรื่องราวของลูก้า คือความพยายามของจูเลียตต้าที่จะจบ “ยุคสมัยแห่งความหวาดกลัว” ของเด็กหนวดจอมกดขี่อย่างเออร์โคเล่ลงเสียให้ได้ เช่นเดียวกับหนังพิกซาร์หลายเรื่อง หนังเรื่องนี้มีสารบางอย่างที่ตั้งใจจะส่งให้ถึงมือผู้ใหญ่มากกว่าเด็ก และคราวนี้มันพยายามจะส่งถึงบรรดาพ่อแม่ที่นั่งดูหนังเรื่องนี้อยู่กับลูกๆ ว่าพวกเขาควรเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับการเติบโตให้กับเด็กมากกว่าที่จะสานต่อยุคสมัยแห่งความหวาดกลัวให้ดำเนินต่อไปในยุคของพวกเขา แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนบนโลกจะรับความต่างได้ แต่เด็กๆ คงหาที่ทางของตัวเองได้ไม่ยากเย็น ถ้าครอบครัวยังอ้าแขนรอรับพวกเขาอยู่เสมอ

น่าเสียดายไม่น้อย หาก Luca จะถูกมองว่าเป็นเป็นการ์ตูนสำหรับเด็กเรื่องหนึ่งที่ดันมีนักวิจารณ์ปากเปราะตีความไปในทางลามก เด็กตัวแค่นี้มันจะไปคิดไปรู้สึกขนาดนั้นได้ยังไง ดูปลาบนฟ้าสวยๆ ไปก็พอแล้ว 

ความพยายามของหนังที่จะพูดว่า “เราอย่าเป็นคนใจแคบกันนักเลย” คงสูญเปล่า


ดู Luca ได้ที่ Disney+ Hotstar

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here