“ฟุตบอลคือชีวิต”
ดานี่ โรฮาส กล่าวกับตัวเองก่อนที่จะทำการเตะจุดโทษ สำหรับกองหน้าพลังงานสูงของเอเอฟซีริชมอนด์ สำหรับทีมหนีตกชั้น สำหรับกองเชียร์ทั้งเมือง ‘ฟุตบอลคือชีวิต’ ถือว่าไม่เกินจริง ในวินาทีถัดจากนั้น เมื่อเอิร์ล สุนัขเกรย์ฮาวด์มาสคอตของทีมหลุดจากสายจูงแล้ววิ่งเข้ามาในสนาม ในอุบัติเหตุนั้นฟุตบอลเป็นมากกว่าชีวิต มันคือความตายที่จะทิ้งแผลไว้ในใจคนหนุ่มร่าเริงอย่างโรฮาส และนี่เป็นปัญหาแม้แต่ เท็ด ลาสโซ่ ยอดคนยอดโค้ชที่แก้ปัญหามาแล้วนับไม่ถ้วนยังแก้ไม่ได้
ในเมื่อฟุตบอลคือชีวิต โค้ชเก่ง ๆ เพียงคนเดียวคงไม่อาจรับมือไหว
Ted Lasso เริ่มสตรีมเมื่อปี 2020 บน Apple TV + เรื่องราวของโค้ชทีมฟุตบอลหนีตกชั้นที่มีความรู้เรื่องฟุตบอลเป็นศูนย์ และปัญหาดราม่าสารพันของทีมเล็ก ๆ ในพรีเมียร์ลีกกวาดรางวัลและเสียงชื่นชมไปมากมาย ส่งชื่อของนักแสดงตลก เจสัน ซูเดคิส (Jason Sudekis) ผู้รับบทโค้ชลาสโซ่ (ซึ่งเดิมทีเป็นตัวละครที่ใช้ในโฆษณาลิขสิทธิ์ฟุตบอลช่อง NBC Sport) และผองเพื่อนให้กลายเป็นขาประจำในงานประกาศรางวัลทีวีโชว์หลายสถาบัน แน่นอนว่ามันไม่ได้มาเพราะโชคช่วย
โค้ชลาสโซ่ไม่ใช่โค้ชอภินิหารแบบที่เรามักจะเห็นกันในหนังกีฬาเบาสมอง เขาล้มเหลวในการพาริชมอนด์หนีตกชั้น และยังคงมีความรู้เรื่องแผนการเล่นฟุตบอลเป็นศูนย์เท่ากับฤดูกาลก่อน แต่ไอ้ “Wanker” ของแฟนบอลริชมอนด์คนนี้ก็ห่างไกลกับการไม่รู้อะไรเลย เขาคุมทีมได้ “ทีม” อันหมายถึงกลุ่มคนที่รวมตัวกันเพื่อบรรลุเป้าหมายเดียวกัน ทีมอันหมายถึงชีวิตจำนวนมาก ทั้งในและนอกสนามแข่ง ตัวละครของลาสโซ่เป็นเหมือนภาพอุดมคติของคนที่ดีต่อสุขภาพจิต หรืออาจจะเป็นครูแนะแนวในฝัน เขาเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ขัน ไม่กดดันใคร ให้เกียรติและชมเชยผู้คนตามสมควรแก่โอกาส เป้าหมายของเขาในฐานะโค้ชคือการเกลาสิ่งที่ดีที่สุดออกมาจากนักกีฬา ถ้าฟุตบอลคือชีวิต เท็ด ลาสโซ่ก็ถือเป็นโค้ชที่เก่งเอาการ
ตัวละครของลาสโซ่เป็นเหมือนภาพอุดมคติของคนที่ดีต่อสุขภาพจิต หรืออาจจะเป็นครูแนะแนวในฝัน เขาเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ขัน ไม่กดดันใคร ให้เกียรติและชมเชยผู้คนตามสมควรแก่โอกาส เป้าหมายของเขาในฐานะโค้ชคือการเกลาสิ่งที่ดีที่สุดออกมาจากนักกีฬา ถ้าฟุตบอลคือชีวิต เท็ด ลาสโซ่ก็ถือเป็นโค้ชที่เก่งเอาการ
ทว่านั่นอาจจะยังไม่พอ หลายครั้งที่ชีวิตต้องการมากกว่าเจตนาที่ดีและความเข้าอกเข้าใจ ยอดโค้ชก็มีสิ่งที่เขาเอาไม่อยู่เหมือนกัน Ted Lasso ในซีซั่นที่สองจึงมีตัวละครสำคัญเพิ่มเข้ามา นั่นคือหมอ ชารอน ฟิลด์สโตน (ซาราห์ ไนล์ส – Sarah Niles จาก I May Destroy You และ The Sandman) จิตแพทย์ที่สโมสรจ้างมาชั่วคราวเพื่อรับมือกับปัญหาสุขภาพทางจิตของนักกีฬา และเมื่อเธอแก้ปัญหาฟอร์มตกของนักฟุตบอลดวงตกอย่าง ดานี่ โรฮาส (คริสโต เฟอร์นันเดส – Cristo Fernandes) ได้ในการบำบัดเพียงครั้งเดียว บางอย่างในใจของโค้ชลาสโซ่ก็ถูกสั่นคลอนอย่างรุนแรง บรรดาตัวละครตลกในซิตคอมกลับดูมีเลือดเนื้อขึ้นมาทันทีเมื่อเราเริ่มได้เห็นชีวิตของพวกเขา
…ชีวิตอันมีบาดแผลและความอ่อนแอเป็นส่วนประกอบ
สิ่งที่โดดเด่นไม่แพ้อารมณ์ขันอบอุ่นของ Ted Lasso ก็คือการเติบโตของหลากชีวิตในเอเอฟซี ริชมอนด์ โดยเฉพาะในซีซั่นนี้ พัฒนาการของบรรดาตัวละครดูจะเป็นหัวใจสำคัญในภาคการเล่าเรื่อง ทั้งผู้เล่นดาวเด่นที่โดนความทรนงของตัวเองโบยตี กัปตันในการเดินทางค้นหาตัวเองครั้งใหม่หลังเกษียณ ประธานสโมสรที่หันหลังให้กับความแค้นแล้วมีชีวิตก้าวเดินต่อไป ในรายที่อาการหนักที่สุดเห็นจะเป็นโค้ชลาสโซ่ที่ต้องเข้ารับการบำบัดอาการแพนิกที่พาเขามาถึงจุดเสี่ยงของอาชีพ และ เนตผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ช่วยโค้ชที่เผชิญหน้ากับวิกฤตตัวตน
น้ำหนักความตลกของ Ted Lasso เปลี่ยนไปทันทีเมื่อมันฉายไฟไปยังตัวละครหลักสองตัวนี้ คนหนึ่งคือโค้ชผู้เป็นที่พึ่งทางใจให้ใครหลาย ในซีซั่นก่อนหน้า เลือดเนื้อของตัวละครโค้ชลาสโซ่ถูกเปิดเผยออกมาผ่านสาเหตุการรับงานคุมทีมฟุตบอล นั่นคือเพื่อถอยออกมาจากปัญหาความสัมพันธ์กับภรรยา ทว่าสาเหตุของอาการตื่นตระหนกเฉียบพลันของเขาอยู่ลึกลงไปกว่านั้น และเขาจำเป็นต้องรับมือกับมันด้วยการเข้ารับคำปรึกษาจากจิตแพทย์ วิธีที่เขาไม่เชื่อถืออย่างที่สุด
อีกคนคือ เนต เชลลีย์ (นิค โมฮัมเหม็ด – Nick Mohammed) ผู้ช่วยโค้ชที่เติบโตมาจากการเป็นพนักงานคลับเฮาส์ สิ่งมีชีวิตลำดับล่างสุดในสโมสรฟุตบอล เขาเป็นเพื่อนคนแรกในดินแดนแปลกหน้าของโค้ชลาสโซ่ เติบโตขึ้นมาได้จากมิตรภาพและการยอมรับนับถือของโค้ช แต่นั่นก็คงไม่พอเสียแล้วเมื่อเขาได้ลิ้มรสชาติของชื่อเสียง และค้นพบเครื่องมือในการสร้างความแข็งแกร่งที่เขาไม่เคยมีมาก่อน เครื่องมือยอดนิยมในวงการฟุตบอล “ทิฐิมานะ” มันพาเขาไปยังจุดที่สูงขึ้น เปลี่ยนเขาเป็นคนที่ไม่เคยเป็นมาก่อน คนแบบที่เคยกดขี่เขาก่อนที่เท็ด ลาสโซ่จะมาถึง
ฟุตบอลคือชีวิต ก็คงจะเลี่ยงไม่ได้หากชีวิตจะต้องมีวันแบบนี้กันบ้าง
ด้วยบทที่พิถีพิถันและการแสดงอันยอดเยี่ยม Ted Lasso จึงเป็นซีรีส์ตลกและเปี่ยมไปด้วยหัวใจอันโดดเด่น แม้ว่าตัวผู้เขียนเองจะไม่ได้เป็นแฟนฟุตบอล แต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรคในการทำความเข้าใจสถานการณ์ยุ่งยากทั้งหลายที่ชาวสโมสรเอเอฟซีริชมอนด์กำลังเผชิญ เพราะมันไม่ใช่เรื่องของฟุตบอล แต่มันเป็นเรื่องของบาดแผลและการเติบโตที่มีฉากหลังเป็นวงการฟุตบอลอังกฤษ เป็นเรื่องราวของชายเจตนาดีที่ค่อย ๆ ทำให้คนรอบตัวของเขาพบที่ทางของตัวเองในโลกที่การแข่งขันคือลมหายใจ
ดังที่ เทรนต์ คริมม์ (เจมส์ แลนซ์ – James Lance จาก The Canteville Ghost) ตัวละครนักข่าวกีฬาขาโหดกล่าวถึงเท็ด ลาสโซ่เอาไว้ในสกู๊ปของเขาว่า “ในวงการที่ยกย่องอัตตา เท็ดเป็นคนถ่อมตน รูปแบบการคุมทีมของเขาฉลาด และเหนือเกินการเข้าใจของคุณ มันจะเติบโตช้า ๆ จนคุณไม่อาจปฏิเสธการมีอยู่ของมันได้อีก มันคือการทำให้ผู้ตามกลายเป็นผู้นำ คือการแสดงความเคารพคนอื่นจนท้องไส้ตัวเองปั่นป่วน ผมมั่นใจว่าเท็ด ลาสโซ่จะล้มเหลวและริชมอนด์จะต้องอับอายจากการตกชั้น ผมไม่ยินดีจะให้มันเป็นเช่นนั้นเลย เพราะผมเองก็อดเอาใจช่วยเขาไม่ได้จริง ๆ”
ฟุตบอลของเท็ด ลาสโซ่ไม่ใช่กีฬา มันไม่ได้เล่นกันแค่ 90 นาทีบนสนาม ไม่ได้มีผู้เล่นแค่ 11 คน มันคือความเข้าอกเข้าใจ คือคำปรึกษาในเวลาที่ต้องการ คือความหวังดีในช่วงเวลาที่มืดมน คือมิตรภาพในช่วงเวลาที่เปราะบาง คือแรงสนับสนุนในการตัดสินใจที่ท้าทาย แม้ว่าเขาจะยังไม่เข้าใจกติกาล้ำหน้าเท่าไรนักก็ตาม
ฟุตบอลของเขาคือชีวิต ไม่มีอะไรผิดไปจากนี้