14 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 คือวันที่เกม Alan Wake วางจำหน่ายเป็นครั้งแรก ในวาระครบรอบ 10 ปี ทางแชนเนลยูทูบ Ars Techinca ได้ลงคลิปชื่อ “How Alan Wake Was Rebuilt 3 Years Into Development” เล่าเบื้องหลังเกี่ยวกับการสร้างเกมทั้งเก่าและใหม่
มีการสัมภาษณ์ Sam Lake มือเขียนบทของค่ายเกม Remedy (เป็นนักเขียนบทเกมที่ผมชื่นชอบมากๆ คนหนึ่ง ผลงานสร้างชื่อของเขาคือ Max Payne) เขาเล่าเบื้องหลังการสร้างเกม Alan Wake ซึ่งเป็นเกมที่ผมชอบมากๆ เกมหนึ่ง เนื่องจากมันมีวิธีเล่าเรื่องที่น่าจดจำ เกมเพลย์ที่สนุก มีบรรยากาศที่คล้ายซีรีส์ Twin Peaks ของ David Lynch และเรื่องสยองขวัญสไตล์ Stephen King
เกมจะให้เราสวมบทบาทเป็น Alan Wake นักเขียนนิยายสยองขวัญระดับเบสต์เซลเลอร์ที่เกิดภาวะสมองตัน เขียนหนังสือไม่ได้มาสองปีแล้ว เขาจึงพาภรรยาไปเที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศที่เมืองเล็กๆ ชื่อ Bright Fall แต่ระหว่างทางเขาก็ฝันร้ายว่าเขาตกอยู่ในมิติมืดอันน่ากลัว มีบางอย่างในความมืดพยายามจะทำร้ายเขา สิ่งเดียวที่ช่วยให้เขาเอาตัวรอดได้มีแต่แสงไฟจากไฟฉายและหลอดไฟเท่านั้น และเมื่อเขาตื่นขึ้นก็พบว่าฝันร้ายนั้นไม่ได้เป็นเพียงฝันร้าย ภรรยาของเขาหายตัวไปและมีพลังงานลึกลับบางอย่างที่จะชิงแสงสว่างไปจากเมืองจริงๆ ที่น่าตกใจคือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลายอย่างนั้นคล้ายกับนิยายที่เขาเขียน เขาจึงต้องต่อสู้กับอำนาจมืดลึกลับที่ทำให้เรื่องแต่งของเขากลายเป็นจริง
ความโดดเด่นของ Alan Wake คือการเล่าเรื่องที่หยิบยืมสไตล์ของซีรีส์โทรทัศน์ในอเมริกามาใช้ในการเล่าเรื่องโดยแบ่งเป็น Episode โดยในแต่ละ Episode นั้นก็จะมี Previously on Alan Wake, Intro Title, Ending Title, Next on Alan Wake รวมถึงโครงสร้างการเล่าเรื่องที่มี Plot ของ Episode มีต้น-กลาง-จบของตอน และท้ายตอนก็จะจบแบบ Cliffhanger เพื่อให้คนดูลุ้นติดตามต่อใน Episode ต่อไป
และไม่ได้หยิบมาแค่ฟอร์มของทีวีซีรีส์ แต่ทั้งบรรยากาศและตัวละครต่างๆ ก็คล้ายกับกับซีรีส์อเมริกา ทั้งบรรยากาศเมืองเล็กๆ แบบใน Twin Peaks หรือมีตัวละครขาประจำของซีรีส์ที่เน้น setting ในเมืองอย่าง นายอำเภอ สาวเสิร์ฟร้านกาแฟ เจ้าของโรงแรม เจ้าของร้านชำ ทำให้เราได้มีโอกาสสำรวจตัวเมืองในเกม ค่อยๆ รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมืองตอนกลางวัน ก่อนจะเข้าสู้เพื่อเอาตัวรอดในช่วงกลางคืน ไม่มีการสร้างบรรยากาศความน่ากลัวแบบตุ้งแช่หรือ Jump Scare ในเกม แต่จะให้ผู้เล่นตกอยู่ในสภาวะกดดันและดิ้นรนเอาตัวรอดจากความมืดที่ตามล่า ไฟฉายที่ฉายนานๆ ก่อนจะอ่อนกำลังลงจนทำอะไรศัตรูไม่ได้ หรือเมื่อกระสุนหมดก็ต้องวิ่งหาแสงไฟเพื่อเอาชีวิตรอด Alan Wake จึงเป็นประสบการณ์การเล่นและเล่าเรื่องที่ค่อนข้างสดใหม่และไม่มีใครเหมือน โดยทาง Remedy ได้ให้คำจำกัดความเกมของเขาไว้ว่า “the mind of a psychological thriller and the body of a cinematic action game put together.”
จากการที่ดูคลิปสัมภาษณ์ Sam Lake ก็ได้รู้ว่าการเขียนบทให้วิดีโอเกมส์นั้นต้องคิด Story Telling ควบคู่ไปพร้อมๆ กับ Mechanic Design ของเกม เขาใช้เวลาลองผิดลองถูกในการวางคอนเสปต์ของเรื่องมามากมายหลายทาง จนไปเจอคีย์เวิร์ด “แสงสว่างและความมืด” ที่เป็นแก่นสำคัญของ Story และ Gameplay เมื่อพัฒนาต่อไปอีกถึงจะหาเจอว่า Genre หลักของเกมนี้คือเกม Action Horror เพราะเป็น Genre ที่เหมาะสมสุดสำหรับผู้เล่นที่จะได้รับประสบการณ์การเล่าเรื่องตามคอนเซปต์หลักที่วางเอาไว้
สิ่งหนึ่งที่ชอบมากๆ ใน Alan Wake คือความเป็นซีรีส์ซ้อนซีรีส์อยู่ในเกม กล่าวคือจะมีบางจังหวะที่เราไปเจอทีวี ซึ่งเราสามารถเปิดทีวีในเกมเพื่อดูซีรีส์ที่ชื่อว่า Night Spring ซีรีส์สั้นๆ จบในตอน ตอนละ 2-3 นาทีที่ใช้การถ่ายทำแบบภาพยนตร์คนแสดงจริง เล่าเรื่องสั้นไซไฟที่มีความลี้ลับพิศวง ถ้าได้ดูก็จะรู้ทันทีว่า มันคือซีรีส์ที่ล้อ Twilight Zone อันโด่งดัง โดยตัว Alan Wake เป็นคนเขียนบท Night Spring เอง และเอาจริงๆ มันก็เป็นซีรีส์ทุนต่ำดูเหมือนมือสมัครเล่นทำ แม้แต่ตัว Alan Wake เองก็ยังอายกับงานบทที่เขาเขียน ถึงกระนั้นนี่ก็เป็นกิมมิคที่น่าสนใจ และทำให้ผู้เล่นลองเปิดทีวี (ในเกม) ทุกครั้งที่เจอ เพื่อจะได้ดู Night Spring ให้ครบทุก Episode (มีด้วยกันทั้งหมด 9 ep หาดูได้ไม่ยากใน Youtube)
น่าเสียดายที่ Alan Wake ไม่ได้มีภาคต่ออย่างที่ตั้งใจไว้ มีเพียงภาคเสริมที่ชื่อ American Nightmare ที่เหมือนเป็น Spin off ไม่ใช่ภาคต่ออย่างเป็นทางการ แต่อย่างไรก็ดีทางค่าย Remedy ก็ยังสร้างสรรค์เกมที่ขายการเล่าเรื่องที่ไฮคอนเสปต์และมีความเป็นภาพยนตร์ตลอดมา ไม่ว่าจะ Quantum Break หรือเกมล่าสุดของค่ายอย่าง Control ก็ยังเป็นเกมที่สร้างสรรค์และเขียนบทโดย Sam Lake เช่นเคย ก็ได้แต่หวังว่าซักวันจะมีการสร้าง Alan Wake 2 ขึ้นมา
ผ่านไป 10 ปีชื่อของ Alan Wake นั้นเกือบจะเลือนหายไปกับกาลเวลา แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ก็มี Caster หลายคนหยิบ Alan Wake ขึ้นมาเล่นใหม่ รวมถึงมีการทำคลิป VDO Essay เกี่ยวกับ Alan Wake มากมาย หลายคนยกย่องว่ามันคือมาสเตอร์พีซที่ถูกลืม ใครอยากลองประสบการณ์เกมที่มีการเล่าเรื่องแบบอเมริกันซีรีส์ และชอบบรรยากาศแบบ David Lynch และ Stephen King ก็ไปหาซื้อมาเล่นกันได้เพราะตอนนี้ Alan Wake ลดราคา 90% เหลือ 0.69 usd (ประมาณ 22 บาท!!) อยู่ใน Epic Games store (ลดราคาถึงวันที่ 11 มิถุนายน)