รัฐฮุบเทศกาลหนังอินดี้จีน จิตวิญญาณจะอยู่ได้อย่างไร?

“เทศกาลหนังอินดี้ผิงเหยา” คือเทศกาลหนึ่งที่มาแรง ทั้งจากการที่มันได้รับความร่วมมือจากคนทำหนังชื่อดังทั้งเอเชีย และการที่มันมีผู้ชมเยอะขึ้นทุกปี จนมีรายงานว่า ในปี 2019 เทศกาลนี้ทำให้รายได้บ็อกซ์ออฟฟิศของผิงเหยาทะยานขึ้นสูงสุดของประเทศจีน… ส่วนหนึ่งอาจเพราะบารมีผู้ร่วมก่อตั้งอย่าง เจี่ยจางเคอ แต่แล้วเขาก็ประกาศกลางงานว่าปีนี้เขาจะจัดเป็นปีสุดท้ายแล้ว ก่อนจะส่งให้องค์การบริหารเมืองผิงเหยาในนามรัฐบาล มาบริหารต่อแบบเต็มตัว ส่งผลให้นักวิชาการเริ่มเป็นกังวลว่าเทศกาลหนังอินดี้ที่กำลังมาแรงนี้จะสูญสิ้นจิตวิญญาณลงในที่สุด เพราะไม่เชื่อว่าข้าราชการจะเข้าใจธรรมชาติของเทศกาลหนังได้ดีไปกว่าเจี่ยจางเคอ

เจี่ยประกาศเทเทศกาลที่ตัวเองร่วมก่อตั้งขึ้นมากับมือ โดยเขาให้เหตุผลว่า “เทศกาลหนังไม่ควรขึ้นอยู่กับใครคนใดคนหนึ่ง เมื่อมีใครถอนตัวออกไป การจัดงานก็ควรดำเนินต่อไปได้ เราควรถอยออกมาให้ทีมใหม่เข้ามาบริหารเสียแต่เนิ่นๆ เพื่อไม่ให้เทศกาลผิงเหยาอยู่ใต้ร่มเงาของเจี่ยจางเคอเพียงคนเดียว เราเลยตัดสินใจในวันที่มันกำลังแข็งแรงที่สุด”

นอกจากการแถลงของเจี่ยกลางเทศกาลซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 10-19 ต.ค. ที่ผ่านมา ก็ไม่มีเหตุผลอื่นใดมาสนับสนุนไปกว่านี้ แต่ผู้ที่เข้าร่วมต่างบอกว่างานปีนี้มีปัญหาเรื่องการจัดงานอย่างแน่นอน อย่างโปรดิวเซอร์ หวังเล่ย ได้เล่าว่า “เทศกาลปีนี้เหมือนไม่มีผู้จัดงาน แม้กระทั่งสูจิบัตรแนะนำหนังที่ฉายยังไม่มีให้เลย หลายกิจกรรมก็ดูรีบทำ ซึ่งผมไม่อยากต่อว่าผู้จัดงานมาก เพราะดูก็รู้ว่าเขาน่าจะโดนแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก” – ทั้งนี้รัฐกล่าวว่าไม่ทราบมาก่อนว่าเจี่ยจะเทงานกลางทางแบบนี้

การประกาศปล่อยมือของเจี่ยเพื่อส่งต่อเทศกาลหนังอินดี้สู่รัฐบาล ทำให้นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านภาพยนตร์แสดงความไม่ไว้ใจต่อรัฐโดยสิ้นเชิง จนปัจจุบันนี้เหลือเพียง “เทศกาลหนังเรื่องแรกซีหนิง” เท่านั้น ที่ยังจัดการโดยองค์กรอิสระอยู่

คริส เบอร์รี่ ผู้เชี่ยวชาญหนังจีนแห่งคิงส์คอลเลจแสดงความไม่ไว้ใจในการบริหารจัดการหนังอิสระของรัฐเอาไว้ว่า “รัฐบาลจีนยังมองหนังเป็นโฆษณาชวนเชื่อในกระแสหลักเท่านั้น การแทรกแซงวงการหนังอิสระและเทศกาลหนังอินดี้ เป็นผลพวงมาจากกฎหมายภาพยนตร์ 2017 (กฎหมายแห่งชาติฉบับแรกที่ร่างขึ้นเพื่อควบคุมอุตสาหกรรมหนังจีนโดยเฉพาะ) มันสะท้อนออกมาให้เห็นว่านับจากนั้นหนังจีนก็หมดความน่าตื่นเต้นโดยสิ้นเชิง”

เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เทศกาลหนังอินดี้จีน (China Independent Film Festival) เทศกาลหนังอินดี้ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ก็ได้ประกาศยุติการจัดงานหลังจากจัดมาอย่างต่อเนื่องถึง 17 ปี ด้วยเหตุผลว่าการแทรกแซงของรัฐบาลจีน ทำให้ “ไม่เหลือจิตวิญญาณที่อิสระอีกต่อไป”

เบอร์นี่ยังมองว่าในการจัดเทศกาลหนังสักแห่งนั้น ไม่ควรปล่อยให้มีเจ้าภาพเจ้าใดเจ้าหนึ่งมีอำนาจจนสามารถครอบงำทิศทางของเทศกาลมากเกินไป แม้ว่าเจ้าภาพนั้นจะหมายถึงภาครัฐก็ตาม

“การที่มีผู้ได้รับผลประโยชน์จนมีอำนาจเหนือเทศกาล ส่งผลให้ไม่เหลืออะไรน่าติดตามอีกต่อไป ยิ่งการที่ภาครัฐสามารถควบคุมเทศกาลหนังโดยสมบูรณ์ ถือเป็นทางเลือกที่แย่ที่สุด เพราะไม่มีทางที่ข้าราชการจะรู้ว่าควรเลือกหนังเรื่องไหนมาฉาย และหลังจากนี้คนทำหนังก็จะให้ค่ามันน้อยลงไปเอง”


ที่มา

https://www.scmp.com/lifestyle/entertainment/article/3106451/government-takeover-independent-chinese-film-festival-fuels

Related NEWS

LATEST NEWS